หนุ่มแกร็บฟู้ด เสาหลักครอบครัว ประสบอุบัติขาหัก ขอความช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 1 ต.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายธนบัติ หรือ “น้องฟาร์ม” ชำนาญพุดซา อายุ 21 ปี บ้านเดิมเป็นชาว อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเช่าใน ต.สันผักหวาน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ อาศัยอยู่กับแม่ มีอาชีพเป็นแม่บ้าน และน้องชาย วัย 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 ขณะนี้ครอบครัวลำบากมาก เนื่องจากตนเป็นเสาหลักของครอบครัว ที่ต้องหาเงินค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถจักรยานยนต์ และส่งเสียน้องชายเรียนหนังสือ เมื่อประสบอุบัติเหตุขาหักจึงไม่สามารถทำงานได้

นายธนบัติ หรือ “น้องฟาร์ม” เล่าว่าเมื่อช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 ตนทำงานอยู่ในร้านขายโทรศัพท์มือถือบนห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองเชียงใหม่ มีรายได้ประมาณเดือนละ 20,000 บาท จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทางร้านประสบวิกฤตเศรษฐกิจได้เลิกจ้างพนักงาน ตนจึงหันมาขับแกร็บฟู้ด มีรายได้ประมาณ 1,000-2,000 บาท หรืออย่างต่ำวันละ 400 บาท ยังพอจุนเจือครอบครัวได้

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา ตรงกับ “วันแม่” ตั้งใจว่าได้เงินมาจะซื้อของขวัญให้แม่ ขณะที่ขับขี่ จ.ย.ย. มาตามถนนเส้นมหิดล เพื่อจะกลับบ้าน เวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่า ๆ ตรงจุดเกิดเหตุเป็นทางมืดพอสมควร ไม่มีไฟส่องถึงตรงที่รถจอดอยู่ (คือมืดจริง ๆ มองอะไรไม่เห็นเลย) ซึ่งตรงนั้นเป็นที่ห้ามจอดด้วย แต่มีรถกระบะคันหนึ่งจอดอยู่ ไม่มีสัญญาณไฟบ่งบอกว่ามีรถจอดอยู่ เป็นเวลาเดียวกันที่ตน ขับผ่านมาเลยทำให้ จ.ย.ย. ไปชนเข้ากับท้ายรถกระบะคันนั้นอย่างจัง เป็นเหตุทำให้ตนขาหัก ตรงที่ชนรู้สึกว่าจะเป็นหน้าร้านปิ้งย่างของทะเล ตรงนั้นจะมีป้ายใหญ่บังทาง เลยทำให้ตรงนั้นมืดมาก ๆ เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จากนั้นคนที่อยู่ในร้านก็ออกมาสอบถามตนว่าเป็นอะไรมากไหมรู้สึกตัวรึป่าว แล้วพวกพี่ ๆ เขาก็โทรเรียกรถพยาบาลให้ จากนั้นตนก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลราชเวช และส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพิงค์

จากนั้นหมอก็บอกตนว่าผลตรวจที่ขาหัก คือ มีกระดูกบางส่วนหลุดออกจากต้นขา หลังจากนั้นคู่กรณีก็มาติดต่อและมาสอบถามอาการตนที่โรงพยาบาล และตนได้รับการผ่าตัดวันที่ 18 ส.ค. 63 เพื่อใส่เหล็กบริเวณที่กระดูกหัก นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลประมาณ 10 กว่าวัน ตอนนั้นยังมี พ.ร.บ และสิทธิรักษาฟรีอยู่ แต่หลังจากนั้นต้องจ่ายเอง เมื่อตนออกจากโรงพยาบาลมา คู่กรณีก็นัดไกล่เกลี่ยที่โรงพัก พอคุยตกลงกันตนต้องจ่ายค่าซ่อมรถให้คู่กรณี 8,000 บาท

“ตอนนี้ตนเดือดร้อนมาก ทำงานก็ไม่ได้ ยังป่วยอยู่ ต้องแบกภาระเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าซ่อมรถและค่าเช่าบ้าน ตอนนี้ที่บ้านมีแม่คนเดียวที่ทำงานได้เป็นรายวัน ตนสงสารแม่มาก ก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นคนหลักในการหาค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งค่าเทอมน้องและค่าอาหารรายวัน ครอบครัวเดือดร้อนมากจริง ๆ ขอความกรุณาช่วยผมด้วยครับ” ติดต่อได้ที่ 064-1568597

ร่วมแสดงความคิดเห็น