(มีคลิป) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ฝึกอบรมหลักสูตร “จิตอาสา” โครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ณ โรงแรมแพร่นครา จังหวัดแพร่ นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “จิตอาสา” ตามโครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า ให้กับเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องในพื้นจังหวัดแพร่ จำนวน 100 คน

ก่อนพิธีเปิดการอบรม นายวิเชียร อนุสาสนนันท์ ปลัดจังหวัดแพร่ ได้รับมอบหมายจากท่านสมหวัง พ่วงบางโพผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ให้มาเป็นตัวแทนต้อนรับ ประธานและผู้เข้ารับการอบรมว่า จังหวัดแพร่มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้คัดเลือกพื้นที่จังหวัดแพร่ในการดําเนินโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “จิตอาสา” ตามโครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า ในครั้งนี้กระผมใคร่ขออนุญาตกราบเรียนข้อมูลเบื้องต้นของจังหวัดแพร่เพื่อทราบพอสังเขปดังนี้ จังหวัดแพร่เป็นจังหวัดในภาคเหนือที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบระหว่างภูเขาหรือแอ่งกระทะโดยมีทิวเขาล้อมรอบ และมีพื้นที่ประมาณ 4,051,912.64 ไร่ มีเนื้อที่ป่า จํานวน2,610,863.30 ไร่คิดเป็นร้อยละ 64.44 ของพื้นที่จังหวัดแบ่งเขตการปกครองออกเป็น8 อําเภอ 78 ตําบล 708 หมู่บ้าน 18 ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น84 แห่ง มีประชากรราว 441,726 คน และมีคําขวัญประจําจังหวัดแพร่ คือ “หม้อห้อมไม้สัก ถิ่นรักพระลอ ช่อแฮศรีเมืองลือเลื่องแพะเมืองผี คนแพร่นี้ใจงาม”

 

ในโอกาสนี้ กระผมในนามของจังหวัดแพร่ ขอขอบคุณท่านจงคล้าย วรพงศธรรองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช และบุคลากรจากหน่วยงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง และขอให้การดําเนินโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “จิตอาสา” ตามโครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า ในครั้งนี้ ประสบความสําเร็จ บรรลุตามวัตถุประสงค์ทุกประการ

จากนั้น นายอิศเรศ สิทธิโรจนกุลผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) กล่าวรายงานว่า โครงการฝึกอบรมหลักสูตร “จิตอาสา” ตามโครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่ามีที่มาจากปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นเป็นประจําทุกปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน เศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว รวมทั้งสภาพแวดล้อมและผืนป่า ทําให้ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าไม้ลดลงโดยเฉพาะพื้นที่ป่าต้นน้ําลําธาร หากสภาพป่าธรรมชาติถูกทําลายและระบบนิเวศมีความสมบูรณ์ต่ําแล้ว การที่ป่าจะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์ได้ดังเดิมนั้น จึงไม่สามารถทําได้โดยง่ายศูนย์อํานวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานมอบหมายให้โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมหารือเพื่อกําหนดแนวทางในการฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกทําลาย และแก้ไขปัญหาไฟป่าให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

โดยมอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ เป็นหน่วยงานหลักในการประสานกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดทําโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “จิตอาสา” ตามโครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่าเพื่อสร้างผู้นําเครือข่ายจิตอาสาพระราชทานทุกภาคส่วน ให้มีความรู้ ความเข้าใจ รวมทั้งสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้สร้างจิตสํานึกในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ สามารถสร้างและขยายเครือข่ายชุมชนที่เข้มแข็ง ในการที่จะร่วมกันฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้และร่วมกันแก้ไขปัญหาไฟป่า ได้อย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืนผู้เข้ารับการฝึกอบรมครั้งนี้ ประกอบไปด้วย ปลัดอําเภอ เกษตรอําเภอ ปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลหรือเทศบาลตําบล สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) สํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่กองพันทหารม้าที่ 12 ตํารวจภูธรจังหวัดแพร่ สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ และจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.ในพื้นที่จังหวัดแพร่รวมทั้งสิ้นจํานวน 100 คน

นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประธานในพิธีกล่าเปิดโครงการว่า ศูนย์อํานวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ได้จัดทํา “โครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า” โดยมีพื้นที่เป้าหมายดําเนินการในพื้นที่ป่าต้นน้ํา ป่าชายเลน ป่าพรุ และที่ดินของรัฐประเภทอื่นรวมถึงการฝึกอบรม “จิตอาสา” เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดีและสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรจากปัญหาไฟป่าที่กล่าวมาได้ส่งผลกระทบเชื่อมโยงในหลายมิติ ซึ่งสาเหตุของการเกิดไฟป่าล้วนเกิดจากฝีมือมนุษย์ทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นการเก็บหาของป่าการปศุสัตว์ การล่าสัตว์ เผาป่าเพื่อบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ และการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่การเกษตร ซึ่งส่งผลให้พื้นที่ป่าเกิดความเสียหายเสื่อมโทรมการฟื้นฟูป่าที่ถูกทําลาย การรักษาแหล่งต้นน้ําลําธารรวมทั้งการแก้ไขปัญหาไฟป่า ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้นจําเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้ความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของท่านรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตรวงษ์สุวรรณที่ได้มอบในการประชุมสัมมนาการขับเคลื่อนนโยบายสําคัญเร่งด่วนของรัฐบาล

ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่21 สิงหาคม 2563โดยท่านได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับเครือข่ายจิตอาสาในการขับเคลื่อนโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากทุกท่าน ซึ่งเป็นกลไกสําคัญระดับพื้นที่ที่จะสามารถช่วยสนับสนุนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดให้ผลักดันนโยบายสําคัญและแก้ไขปัญหาไฟป่าได้ดังนั้น เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในด้านวิชาการ ทฤษฎีและฝึกปฏิบัติในเรื่องความรู้ไฟป่านิเวศวิทยาป่าต้นน้ําการฟื้นฟูป่าต้นน้ำระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อสนับสนุนการดูแลทรัพยากรป่าไม้ในท้องถิ่น ตลอดจนสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับส่วนราชการ องค์กรและเครือข่ายภาคประชาชนได้ รวมทั้งจําเป็นต้องมีการสร้างและขยายเครือข่ายชุมชนที่เข้มแข็ง เพื่อที่จะสามารถฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้และป้องกันไฟป่าได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน จึงได้เกิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรนี้ขึ้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอขอบคุณศูนย์อํานวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานที่ผลักดันให้เกิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “จิตอาสา” ตามโครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่าและขอขอบคุณผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ ทุกท่านที่จะได้นําความรู้ที่ได้รับในครั้งนี้ไปดําเนินการเป็นกําลังสําคัญในการปลูกและฟื้นฟูป่า รวมทั้งป้องกันไฟป่าในพื้นที่ของท่านต่อไปและขอความร่วมมือจังหวัดและหน่วยงาน อส. ปม. และ กอ.รมน.ในพื้นที่จังหวัดนําองค์ความรู้ของหลักสูตรนี้ ไปถ่ายทอดเป็นหลักสูตรระดับชุมชนของแต่ละหน่วยงานเพื่อขับเคลื่อนการดําเนินงานในพื้นที่จังหวัดให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า.และป้องกันไฟป่า ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล กระผมขอให้การฝึกอบรมครั้งนี้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกประการ

ร่วมแสดงความคิดเห็น