กรมอนามัยร่วมกับการประปา คุมเข้มคุณภาพน้ำพื้นที่เปราะบาง “แหล่งท่องเที่ยว-ชุมชนแรงงานต่างด้าว” เพื่อรองรับการเปิดประเทศ

​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือการประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค และประปาเทศบาล เฝ้าระวังและรักษามาตรฐานคุณภาพน้ำประปา ป้องกันโรคโควิด 19 โดยเฉพาะในพื้นที่เปราะบาง ทั้งในแหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่ที่มีแรงงานต่างด้าวหนาแน่น เพื่อรองรับการเปิดประเทศ

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การเตรียม เปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยว กรมอนามัยได้ขอความร่วมมือจากผู้ผลิตน้ำประปา ทั้งการประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค และประปาเทศบาล ให้รักษามาตรฐานคุณภาพน้ำประปา โดยเฉพาะในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่ที่มีแรงงานต่างด้าวหนาแน่น ควรมีการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปาอย่างต่อเนื่อง โดยตรวจสอบระดับความเข้มข้น คลอรีนอิสระของน้ำประปาในระบบจ่ายให้มีไม่ต่ำกว่า 0.5 ppm. ตลอดเวลา เนื่องจากการจัดการด้าน อนามัยสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับสถานการณ์การระบาดของโรค ยังจำเป็นที่จะต้องรักษามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปิดประเทศในครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะเรื่องน้ำสะอาดที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญทั้งการอุปโภคและบริโภค

​นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมากรมอนามัยได้จัดทำคำแนะนำ ในการดูแลคุณภาพน้ำประปา เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางในการควบคุม กำกับ ดูแล และเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปา ในช่วงการเกิดโรคโควิด 19 ดังนี้ 1.) แหล่งน้ำดิบ ดูแลรักษาความสะอาดตามปกติ ไม่ให้มีขยะโดยเฉพาะหน้ากากอนามัย ที่ใช้แล้วหากพบบริเวณใกล้เคียงกับแหล่งน้ำดิบ ต้องกำจัดอย่างถูกหลักสุขาภิบาลทันที 2.) ระบบผลิตน้ำประปา ควบคุมกระบวนการผลิตตามแนวทางปกติ เพื่อให้ได้คุณภาพน้ำประปาตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด เพิ่มปริมาณความเข้มข้นของคลอรีนในกระบวนการฆ่าเชื้อโรคให้มีคลอรีนอิสระคงเหลือไม่ต่ำกว่า 1 มิลลิกรัมต่อลิตร (ppm.) ที่ต้นทางของน้ำประปา 3.) ระบบการจ่ายน้ำ ดูแลระบบท่อจ่ายน้ำไม่ให้แตก รั่ว หากพบให้ดำเนินการซ่อมแซมทันที และเฝ้าระวังปริมาณคลอรีนอิสระคงเหลือให้มีไม่ต่ำกว่า 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร (ppm.)

4.) เจ้าหน้าที่ดูแลกระบวนการผลิตน้ำประปา ต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เช่น หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างในการติดต่อประสานงานกันอย่างน้อย 1 – 2 เมตร หากมีอุณหภูมิร่างกาย 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือพบอาการมีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก ครั่นเนื้อตัว ให้หยุดปฏิบัติงาน แจ้งหน่วยงานและไปพบแพทย์ และ 5.) อาคารสถานที่ผลิตน้ำประปา ต้องดูแลรักษาความสะอาดของอาคารสถานที่ผลิตน้ำประปาให้สะอาดอยู่เสมอ ตามมาตรการ 5 ส. ทั้งนี้ สำหรับผู้ใช้น้ำประปาอาจจะได้กลิ่นอ่อน ๆ ของคลอรีน ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตราย และสามารถกำจัดได้โดยเปิดน้ำประปาใส่ถังพักน้ำทิ้งไว้ หรือเพิ่มระบบการกรองด้วยถ่านกัมมันต์ (Activated carbon) เพื่อดูดซับคลอรีนออกจากน้ำประปา ก็จะสามารถกำจัดกลิ่นคลอรีน ได้เช่นกัน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น