8 ลายแทง ท่องเที่ยวขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน

“ขุนยวม” อำเภอขุนยวม ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอเล็ก ๆ ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและสายหมอก มีดอกบัวตองที่งดงามบานสะพรั่งเต็มหุบเขา ในอดีตดินแดนแห่งนี้ เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่ากะเหรี่ยง และชนเผ่าละว้า ต่อมาได้มี ชาวไทใหญ่ ซึ่งได้อพยพมาจากอีกฟากฝั่งของแม่น้ำสาละวิน มีชื่อว่า “ชานกะเล” ได้ชักชวนให้ชาวบ้านที่อยู่กระจัดกระจายกัน ให้มาอยู่รวมเป็นหมู่บ้าน และได้ตั้งชื่อว่า “บ้านขุนยม” ในเวลาต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “บ้านขุนยวม” จนถึงปัจจุบัน ในอดีตบ้านขุนยวม อยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่ ซึ่งต่อมาเจ้าเมืองเชียงใหม่เห็นว่า ชานกะเล เป็นผู้มีความขยัน และมีความซื่อสัตย์ จึงได้แต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองเมืองขุนยวม

ชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสกับเมืองขุนยวมแบบใกล้ชิด “ 8 ลายแทงเที่ยวขุนยวม”

จุดแรก .. ในช่วงฤดูหนาวฤดูกาลแห่ง “ทุ่งดอกบัวตองบาน” สีเหลืองสดสะพรั่งเต็มผืนดอย ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมดอกบัวตอง จะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงกลางเดือนธันวาคมของทุกปี หากได้มาชมดอกบัวตองแล้ว อย่าลืมที่จะแวะชมความงดงามใน “จุดที่ 2” ของ “น้ำตกแม่สุรินทร์” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สายน้ำที่ไหลจากหุบเขาสูงกว่า 200 เมตร เคียงคู่กับทุ่งดอกบัวตอง ในช่วงฤดูกาลที่ดอกบัวตองผลิบานอีกหนึ่งสถานที่ ที่ต้องแวะไปเช็คอินนั่นเอง “จุดที่ 3” ก็คือ “Posaho cafe” ร้านกาแฟเด็กน้อยทำอร่อย ซึ่งถือได้ว่าเป็นร้านกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นก็เพราะหนึ่งปีเปิดแค่เพียงช่วงเวลาเดียวเท่านั้น นั่นก็คือช่วงเทศกาลดอกบัวตองบาน “โพส่าโฮ” เป็นภาษาปกาเกอะญอ แปลได้ว่า “เด็กน้อย” ร้านกาแฟแห่งนี้ เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านหัวแม่สุรินทร์ ที่ร่วมกันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาดูแลร้าน และทำกาแฟ โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะใช้เป็นทุนการศึกษา และอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน ร้านนี้นอกจากกาแฟจะอร่อยแล้วยังมีวิวทุ่งนาที่สวยงามอีกด้วย

นอกจากนี้ ในเขตอำเภอขุนยวม ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไปถ่ายรูปเช็คอินให้เพลิดเพลินอีกมากมาย “จุดที่ 4” “อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น” หรือ พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ขุนยวม เป็นสถานที่ฝังศพทหารญี่ปุ่นหลายพันนายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในจัดแสดงข้าวของต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำสงครามเมื่อครั้งอดีต มาเที่ยวขุนยวมต้องมาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ด้วย ถึงจะเรียกได้ว่ามาเที่ยวให้ครบ “จุดที่ 5” “วัดต่อแพ” เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำยวม ในอดีตเป็นวัดร้างสันนิษฐานว่าเป็นวัดของชาวลัวะ โดยวัดเหลือเพียงแค่ซากเจดีย์เก่าที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่ ต่อมาชาวบ้านได้ร่วมกันบูรณะวัดและสร้างศาลาการเปรียญขึ้น ในปี พ.ศ. 2461 หนึ่งในสถานที่ต้องแวะชมภายในวัดก็คือ ศาลาการเปรียญ อาคารสถาปัตยกรรมเมียนมาผสมไทใหญ่ ที่สวยงามที่สุดในอำเภอขุนยวม และยังคงมีสภาพสมบูรณ์
“จุดที่ 6” ทะเลสาปสะตือ หรือเรียกว่า “อ่างเก็บน้ำห้วยสะตือ” ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเวียงหล้า ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ห้ามพลาดที่จะมาแวะชม “จุดสุดที่ 7″ “บ่อน้ำร้อนหนองแห้ง” เป็นธารน้ำร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ปัจจุบันมีอ่างน้ำร้อนไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ที่อยากมานอนแช่แบบฟิน ๆ.. มา “จุดสุดท้ายที่ 8” สัมผัสวีถีชีวิต “บ้านเมืองปอน” และวัฒนธรรมชุมชนชาวไทใหญ่ ในหุบเขารายล้อม ด้วยทุ่งนาและป่าเขาเขียวขจี เรียนรู้ภูมิปัญญางานหัตถกรรม การจักสาน การทำเชือกหมวก และการตอกลาย ลิ้มลองอาหารท้องถิ่น มนต์เสน่ห์หนาวนี้ที่คุณจะตกหลุมรัก…ขุนยวม

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน เบอร์โทร 053 612 982-3 หรือ Facebook : TAT Maehongson

ร่วมแสดงความคิดเห็น