ช่วงหนาวป้องกันเด็กป่วย อปท.ร่วมแผนสาธารณสุขรับมือโรคติดเชื้อเด็กปฐมวัย

สำนักงานท้องถิ่น จ.ลำพูน แจ้งว่า นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รอง ผวจ.ลำพูน ได้ลงนามในเอกสารสั่งการ เรื่อง การป้อง
กันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส อาร์เอสวี ในสถานศึกษาระดับปฐมวัย แจ้งให้ทุกอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดำเนินการตามที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแจ้งมา ข้อมูลกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าช่วงฤดูหนาว มักพบเด็กป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ จากเชื้อไวรัสดังกล่าว ในกลุ่มอายุต่ำกว่า 5 ปี อาจจะมีอาการรุนแรงกว่ากลุ่มอื่นๆ ดังนั้น สถานศึกษา ระดับปฐมวัย (ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก)
ในสังกัดอปท.ทุกแห่ง รวมถึงผู้ปกครอง บุคลากรสถานศึกษา ต้องทำความเข้าใจ เรียนรู้ลักษณะอาการโรคเพื่อเฝ้าระวังนักเรียน บุตรหลานไม่ให้ป่วยอย่างใกล้ชิด

เครือข่าย อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการเฝ้าระวังโรคในช่วงฤดูหนาวว่าจะมีกลุ่มโรคเสี่ยงในเด็ก ๆ ระดับปฐมวัย ประกอบด้วยโรคไข้หวัดใหญ่,ไข้หวัด, โรคปอดบวม, โรคหัด, โรคหัดเยอรมัน,โรคไข้สุกใส, โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน ผู้ปกครองควรต้องปฏิบัติตามข้อแนะนำของ อสม. หรือบุคลากรทางการศึกษาที่ได้มีการบูรณาการแผนตามมาตรการทางสาธารณสุขร่วมกับโรงพยาบาล, สำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องด้วย

” ยกตัวอย่างอาการเด็กๆที่ตัวร้อนมีไข้ มีน้ำมูก อย่าคาดเดาเองว่าเป็น ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดและมีการฉีดวัคซีนป้องกันไว้แล้ว เพราะพัฒนาการของโรคติดเชื้อ อาจไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้ ปัจจุบันวัคซีนป้องกัน มีพัฒนาการควรฉีดวัคซีนทุกปี เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการแลกเปลี่ยนพันธุกรรมทำให้มีไวรัสลูกผสมสายพันธุ์ใหม่และร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์ใหม่ จึงควรพาบุตรหลานไปฉีดวัคซีน ตามกำหนดที่แพทย์,สาธารณสุขแนะนำไข้หวัดธรรมดามักมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ไอจาม คันคอ เป็นอาการเด่น ไม่ค่อยมีอาการไข้ และปวดกล้ามเนื้อไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงถึงชีวิตได้เช่นปอดบวม เมื่อบุตรหลานป่วยในช่วงนี้ต้องพบแพทย์ทันที “

นอกจากนั้น โรคติดเชื้อไวรัส อาร์เอสวี นั้น ในสถานศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต่างๆ จะมีการอบรมครู บุคลากรทางการศึกษา เกี่ยวกับแนวทางข้อปฏิบัติ ที่ป้องกันการติดต่อสัมผัสโรคนี้ และการรักษาเป็นไปตามอาการ ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ซึ่งปัจจุบันมีสารพัดโรค แม้กระทั่งโรควิด 19 ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ ประชาชนจึงต้องเรียนรู้ ปรับตัว ให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อให้ห่างไกลปลอด จากโรค จากการเจ็บป่วยในช่วงนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น