วันที่ 20 พ.ย.63 รายงานข่าวแจ้งว่า จากการที่ขณะนี้ได้เป็นช่วงหยุดยาวของประชาชนจำนวนมาก ประกอบกับอากาศหนาว ในพื้นที่ภาคเหนือ และโดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้การท่องเที่ยวขณะนี้เป็นไปอย่างคึกคักโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และตามยอดดอยต่างๆ ส่งผลให้ยอดจองที่พักหลายแห่ง มีปรพชาชนและนักท่องเที่ยวต่างพากันเข้าจองจนเต็ม อาทิสถานที่ท่องเที่ยวใน อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.หางดง และ อ.จอมทอง ซึ่งพบว่ามียอดมากถึงร้อยล่ะ 90
โดยขณะที่ทางด้าน การท่องเที่ยวแห่ง สำนักงานเชียงใหม่ ได้คาดการณ์ไว้ว่า ในช่วงระยะนี้ จะมีนักท่องเที่ยวเฉพาะที่เป็นชาวไทย เดินทางเข้ามาเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่กว่า 90,000 คน และมีเม็ดเงินสะพัดในพื้นมี่กว่า 700 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงหยุดยาวสิ้นปี ที่ใกล้จะถึงนี้คาดหวังอีกว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาอีกกว่าเท่าตัว ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการผ่อนปรนของรัฐบาลให้ประชาชนเดินทางได้หลังวิกฤตโควิด และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการคนล่ะครึ่ง บวกกับสภาพอากาศของพื้นที่ในขณะนี้ด้วย
ทั้งนี้จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นหลายพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ตามยอดดอยในพื้นที่รอบนอกตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสอากาศหนาวอันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวเป็นไปด้วยความคึกคัก
ขณะที่ทางด้าน นางสาวภคนันท์ วินิจชัย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัจจัยด้านบวกที่ทำให้การท่องเที่ยวใน จ.ชียงใหม่ คึกคักเป็นเพราะว่าสภาพอากาศเริ่มหนาวเย็นทำให้นักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดนิยม ขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง อ.หางดง อ.แม่แตง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่ดอยม่อนแจ่ม อ.แม่ริม ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากนี้พื้นที่ อ.แม่ริม ยังมีแหล่งท่องเที่ยวประเภทแอดเวนเจอร์ เช่นโรลเอลร์โคสเซอร์ ซีปไลน์ ปางช้าง ฟาร์มงู ตลอดจนประติมากรรมหุ่นฟางข้าว ที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ก็เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
ส่วนแหล่งท่องเที่ยว ที่ได้กำลังได้รับความนิยมมากที่สุดจากนักท่องเที่ยวตอนนี้ในพื้นที่ อ.แม่ริม ก็คือแปลงดอกไม้นานาชนิด อาทิ พีค็อก มาร์กาเร็ต สร้อยไก่ เบญจมาศ และสเปรย์ มีพื้นที่ปลูกมากที่สุดในตำบลโป่งแยง และตำบลเหมืองแก้ว รวมทั้งหมด กว่า 1,035 ไร่ ต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงฤดูหนาวไปจนถึงต้นปีหน้าเลยทีเดียว จากปัจจัยดังกล่าว ประกอบกับมาตรการผ่อนปรนของรัฐบาลให้ประชาชนเดินทางได้หลังวิกฤตโควิด ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมท่องเที่ยวในสถานที่โล่งแจ้ง ไม่แออัด ประกอบกับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และคนล่ะครึ่งทำให้ช่วงวันหยุดยาว 19-22 พ.ย.63 นี้เป็นไปด้วยความคึกคัก ส่งผลให้ยอดจองห้องพักในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยล่ะ 90 และคาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ต่ำกว่า 9 หมื่นคน และมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 730 ล้านบาทเลยทีเดียว
ร่วมแสดงความคิดเห็น