เหตุการณ์ดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 63 เวลา 16.00 น. ร้านเจ๊เเจ้ (สงวนชื่อ-นามสกุล) ร้านขายของชำ ตั้งอยู่ที่ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง คนร้ายชาวต่างชาติ 2 คนเข้ามาซื้อของปกติ ชายคนแรก สีผิวขาว สวมเสื้อลายสก็อตสีดำขาว ส่วนสูงประมาณ 190 ซม. สามารถสื่อสารภาษาไทยได้บ้าง และฟังภาษาไทยออก ชายอีกคนสีผิวคล้ำ คนสวมเสื้อคอโปโลสีขาว สวมหน้ากากอนามัย ส่วนสูงประมาณ 165 ซม. เข้ามาซื้อของเหมือนกับลูกค้าทั่วไป ซื้อกาแฟกระป๋องจำนวน 2 กระป๋อง และซื้อผลิตภัณฑ์กาแฟแบบซอง โดยเจ้าของร้าน จะแจ้งให้ลูกค้าไปหยิบสินค้าด้วยตนเอง ส่วนเจ้าของร้านนั่งบริการชำระเงินอยู่ที่เค๊าเตอร์ปกติ เหมือนทุก ๆ วัน ต่อมาคนร้ายหยิบสินค้ามาชำระเงินเหมือนกับลูกค้าท่านอื่น และรอคนร้ายอีกคนเลือกสินค้า จากนั้นจึงซื้อแก้วกระดาษ 1 แถวเพิ่มเติม เจ้าของร้านก็ไปหยิบให้ และชำระเงินปกติ จากนั้นคนร้ายขอแลกธนบัตร 1,000 บาทในรัชกาลที่ 10 แลกเป็นธนบัตร 1,000 บาทในรัชกาลที่ 9 โดยอ้างว่าชื่นชอบธนบัตรในรัชกาลที่ 9 เจ้าของร้านยินยอมให้แลก ถัดมาคนร้ายแจ้งกับเจ้าของร้านว่า พบธนบัตรฉีกขาด จึงขอเปลี่ยนใบใหม่ จนกระทั่งคนร้ายทำทีมาเลือกธนบัตรเอง โดยล้วงเงินในกระเป๋าตามคลิปดังกล่าว จากนั้นจึงออกจากร้านไปยังร้านค้าข้างเคียง
ขณะเดียวกัน ร้านค้าข้างเคียงร้านเจ้แนน (สงวนชื่อ-นามสกุล) ขายอาหารทะเล ก็พบกับคนร้ายชาวต่างชาติ คนเดียวกัน มาซื้อน้ำเปล่า 1 ขวด และซื้อน้ำมะนาว 1 ขวด และชำระเงินจนเสร็จคนร้ายหยิบธนบัตร 500 บาทในรัชกาลที่10 มา 2 ใบ และสอบถามเจ้าของร้านว่ามีเงินธนบัตร 1,000 บาทในรัชกาลที่9 ให้แลกหรือไม่ แต่เจ้าของร้านบอกว่าไม่มี และให้ไปขอแลกกับแม่ค้าอีกคน แม่ค้าจึงถามคนร้ายว่าธนบัตร 500 บาท เป็นธนบัตรปลอมหรือไม่ คนร้ายดังกล่าวจึงให้เช็คธนบัตร จากนั้นเมื่อเช็คว่าเป็นธนบัตร 500 บาทจริง จึงให้แลกเป็นธนบัตร 1,000 บาท ในรัชกาลที่ 10 ไป แต่คนร้ายแจ้งกับแม่ค้าว่าธนบัตรฉีกขาด เเม่ค้ารายนี้จึงหยิบเงินทั้งหมดในชุดเอี๊ยมพบใบใหม่จึงให้แลกใบใหม่ไป
เวลาถัดมาใกล้เคียงกัน คนร้ายกลับมาซื้อแก้วน้ำพลาสติก 12 ออนซ์ ที่ร้านค้าผู้เสียหายครั้งที่ 2 จากนั้นก็ชำระเงิน ในราคา 15 บาท แต่คนร้ายให้ธนบัตร 20 บาทมา 2 ใบ พร้อมทั้งบอกว่าไม่ต้องทอน ให้ทิ๊ปกับแม่ค้าที่ใจดี และขอแลกเงินครั้งที่ 2 เริ่มจากธนบัตร 100 บาท , 50 บาท และธนบัตร 500 บาทตามลำดับ พร้อมกับบอกเจ้าของร้านผู้เสียหายว่า รัก ชื่นชอบ และศรัทธาภูมิพล เหมือนกับครั้งแรก ผู้เสียหายก็รู้สึกคล้อยตาม คนร้ายจึงล้วงกระเป๋าทำทีมาเลือกธนบัตรเป็นครั้งที่ 2 เหมือนเดิม จากนั่นคนร้ายทั้ง 2 คนได้เงินจำนวนหนึ่งไป และก็เดินออกจากร้านหายไปจากตลาดทันที
กระทั่งลูกค้าในตลาดสด สังเกตเห็นพิรุธ ว่าชายชาวต่างชาตินำเงินใส่กระเป๋ากางเกงข้างซ้ายไว้หลายใบ และมีธนบัตรบางใบโผล่ออกมา พร้อมทั้งเห็นจังหวะตอนขโมยเงินด้วย จึงรีบมาบอกเจ้าของร้านผู้เสียหายให้รีบตรวจสอบเงินในกระเป๋าว่ามีเงินหายไปหรือไม่ พบว่ามีเงินธนบัตร 1,000 เหลือเพียง 4,000 บาท จากที่มีเงินกว่า 2 หมื่นบาท จากนั้นจึงช่วยกันออกตามคนร้ายดังกล่าว แต่ก็ไม่พบจึงได้กลับมาดูกล้องวงจรปิดภายในร้าน
โดยในภาพจากกล้องวงจรปิด สังเกตเห็นว่า คนร้ายเอื้อมมือมาเลือกธนบัตรจากกระเป๋าผู้เสียหาย และบางช่วง บางตอนยังแอบนำเงินใส่กระเป๋ากางเกงตัวเอง โดยผู้เสียหายบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “ตอนนั้นรู้สึกตัวดี มีสติ ตนรักในหลวงรัชกาลที่ 9 ชาวต่างชาติมาพูดว่ารัก และชื่นชม ตนก็เลยดีใจพร้อมทั้งขอบคุณชาวต่างชาติด้วยที่รักในหลวงรัชกาลที่ 9 เช่นกัน โดยส่วนตัวผู้เสียหาย คิดว่าไม่ได้ถูกป้ายยา ตามที่เคยเห็นข่าวเกิดขึ้นในสังคมไทย ขณะนี้เจ้าของร้านผู้เสียหายรู้สึกเสียใจมาก เพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับตน รู้สึกเครียด นอนไม่หลับ กังวลใจ และระแวงตลอดเวลากับการเปิดร้านในทุก ๆ วัน เจ้าของร้านผู้เสียหายจึงอยากให้เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องเตือนภัยสังคมกับแม่ค้าร้านอื่น ๆ ในอำเภอเถิน และต่างจังหวัด ให้ระวัง และอย่าไว้ใจชาวต่างชาติ ที่มีพฤติการณ์ในลักษณะนี้
เบื้องต้น เจ้าของร้านผู้เสียหายได้เข้าลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เถิน พร้อมมอบภาพจากกล้องวงจรปิด ไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเห็นใบหน้าคนร้ายชัดเจน โดยพบว่าคนร้ายลักษณะดังกล่าว ไม่ได้ก่อเหตุเพียงครั้งเดียว แต่พบว่าเคยก่อเหตุกับผู้เสียหายในพื้นที่ต่างจังหวัด ก่อนหน้านี้ด้วย โดยตำรวจจะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น