​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ การประปานครหลวง ลงนามบันทึกความร่วมมือ โครงการแผนน้ำประปาปลอดภัย เพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นคุณภาพน้ำประปา ที่สะอาดสำหรับประชาชน

​วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการแผนน้ำประปาปลอดภัย ณ ห้องประชุม 606 ชั้น 6 อาคารสำนักงานใหญ่การประปานครหลวง ว่า กรมอนามัยได้ดำเนินงานร่วมกับการประปานครหลวง เพื่อพัฒนาคุณภาพน้ำประปาที่สะอาด ปลอดภัย มาอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกันในด้านวิชาการ การปฏิบัติการในพื้นที่ รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน ส่งผลให้สามารถแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำประปาได้ ซึ่งจากการสุ่มเฝ้าระวังคุณภาพน้ำบริโภคในครัวเรือน ตั้งแต่ปี 2560-2563 พบว่า น้ำประปาของการประปานครหลวงที่ใช้บริโภคในครัวเรือน มีคุณภาพผ่านเกณฑ์คุณภาพน้ำประปาดื่มได้ของกรมอนามัย เฉลี่ยร้อยละ 88.07 โดยปีล่าสุดพบว่ามีคุณภาพผ่านเกณฑ์คุณภาพน้ำประปาดื่มได้ของกรมอนามัย ร้อยละ 100 ถือได้ว่ามีคุณภาพที่เหมาะสมสำหรับนำมาบริโภคในครัวเรือน

​“ทั้งนี้ การลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการแผนน้ำประปาปลอดภัย ระหว่าง กรมอนามัย กับการประปานครหลวงในครั้งนี้ จึงเป็นความร่วมมือทางวิชาการ ที่จะบูรณาการสร้างความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการน้ำประปาในเขตนครหลวง ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในการจัดการคุณภาพน้ำ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์การสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางสังคม ในเรื่องการพัฒนาระบบการบริการเพื่อสุขภาพที่ดี โดยการส่งมอบน้ำประปาปลอดภัย ให้กับประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมทั้งพัฒนาหลักเกณฑ์ มาตรฐานทางวิชาการ พัฒนาบุคลากรในฐานะทีมตรวจ ประเมินกลาง และแลกเปลี่ยนข้อมูลคุณภาพน้ำประปา ตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน โดยกรมอนามัยมีบทบาทในการสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาระบบส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมของประเทศ แก่ภาคีเครือข่ายเพื่อให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมแก่ประชาชน” รักษาราชการแทนอธิบดี กรมอนามัย กล่าว

 

​ทางด้าน นายกวี อารีกุล ผู้ว่าการการประปานครหลวง กล่าวว่า การประปานครหลวงมีการควบคุมคุณภาพน้ำทุกขั้นตอน ตั้งแต่แหล่งน้ำดิบ โรงงานผลิตน้ำ จนถึงบ้านเรือน เพื่อสุขอนามัยของประชาชนกว่า 12 ล้านคน ในกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ และมีการตรวจคุณภาพน้ำโดยนักวิทยาศาสตร์ การประปานครหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จนกระทั่งปี 2554 เป็นต้นมา การประปานครหลวง ได้นำแผนน้ำประปาปลอดภัย (Water Safety Plan) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) มาจัดกระบวนการดำเนินการที่ผ่านมาให้เป็นระบบที่เหมาะสมมากขึ้น ให้ความสำคัญตั้งแต่การดูแลรักษาแหล่งต้นน้ำ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของผู้มีส่วนได้เสีย ชุมชนต้นน้ำ เมื่อน้ำดิบเข้ามาสู่กระบวนการผลิต จะต้องมีการปิดจุดเสี่ยงรอบด้าน เพื่อคงคุณภาพของน้ำอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อผลิตเป็นน้ำประปา จะต้องมีการดูแลรักษาต่อเนื่องทั้งระบบสูบส่งและสูบจ่าย จนกระทั่งไปถึงบ้านเรือนประชาชน จำเป็นต้องปรับปรุงระบบท่อ และการซ่อมท่อ ให้ได้มาตรฐาน ไร้การปนเปื้อนใด ๆ ในน้ำประปา เพื่อคงคุณภาพน้ำประปาปลายทาง ให้ได้มาตรฐานเดียวกับน้ำประปาที่ออกจากโรงงานผลิตน้ำทุกแห่ง นำมาซึ่งความมั่นใจในการอุปโภคบริโภคน้ำประปาของประชาชนทุกคน

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น