(มีคลิป) ภาค 5 จับผู้ต้องหา 10 ราย ยึดยาบ้ามโหฬาร หลังพบลักลอบนำเข้าและส่งออกกันอย่างมาก

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ธ.ค.63 ที่กองบัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 6) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 , นายรัฐพล นราดิศร รอง ผวจ.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ ฝ่ายทหาร , ฝ่ายปกครอง , สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าวผลการจับกุมและกวาดล้างขบวนการที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ จำนวนทั้งสิ้น 3 คดี ผู้ต้องหา 10 คน รวมของกลาง ยาบ้า 1,000,000 เม็ด , ไอซ์ 150 กิโลกรัม , เคตามีน 10 กิโลกรัม และเงินสด 5,494,500 บาท

ทั้งนี้ทางด้าน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 เปิดเผยถึงผลการดำเนินการจับกุมในครั้งนี้ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในทุกฝ่าย ซึ่งได้ร่วมกับปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ และได้ร่วมกันทำการจับกุมคดียาเสพติติดที่สำคัญ 3 คดี ด้วยกัน โดยในคดีแรกเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้ดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร จ.เชียงราย บริเวณจุดผ่อนปรนท่าเรือเชียงแสน ได้ตรวจพบมีคนไทย ทราบชื่อคือ นายสุกันทา ภูมิพันธ์ อายุ 37 ปี ชาว ต.แม่นาเรือ อ.เมือง จ.พะเยา ได้นำเงินเพื่อที่จะไปส่งมอให้กับชาวลาว ที่ได้นำเรือมารอรับที่บริเวณท่าเรือผ่อนปรนที่ว่าการอำเภอเชียงแสน ทางเจ้าหน้าที่พบว่ามีความผิดปกติ จึงได้เข้าทำกาตรวจสอบ และตรวจค้นพบเงินสด จำนวนทั้งสิ้น 5,494,500 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ต้องสงสัยว่าจะได้มาจากการกระทำความผิด จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมทั้งของกลางเงินสดจำนวนดังกล่าว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา พยายามนำเงินตรา (ธนบัตรไทย) ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งจะได้สืบสวนขยายผลถึงที่มาที่ไปของเงินจำนวนดังกล่าวต่อไป

ส่วนคดีที่สอง เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.63 ทางเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด ตามแนวชายแดนทั้งจังหวัดเชียงใหม่ , เชียงราย ได้ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจสอบเส้นทางธรรมชาติ ตามแนวชายแดนในพื้นที่ อ.แม่สาย , อ.แม่จัน , อ.แม่ฟ้าหลวง และ อ.แม่อาย ซึ่งพบว่ามีกลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ฟ้าหลวง จึงได้ร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันทำการตรวจสอบสกัดกั้น พบรถจักรยานยนต์ จำนวน 6 คัน รถยนต์กระบะ โตโยต้า ไฮลักซ์วีโก้ 4 ประตู สีบรอนเงิน ทะเบียน กท 5017 เชียงราย 1 คัน ตรวจสอบภายในก็พบว่ามีการบรรทุกยาเสพติดเป็น ไอซ์ 150 กิโลกรัม , เคตามีน 10 กิโลกรัม เข้ามาในพื้นที่ และสามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 คน โดยพบว่าทั้งหมดมีการแบ่งมอบหน้าที่ภารกิจในการลักลอบขนยาเสพติดกันอย่างชัดเจน ทั้งผู้ต้องหาที่เป็นคนในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ตามแนวชายแดน และมีบุคคลตามแนวชายแดนร่วมทำความผิดด้วย รวมทั้งบุคคลที่อยู่พื้นราบเพื่อเป็นที่เก็บรักษายาเสพติดหากสามารถเล็ดรอดเข้ามาในพื้นที่ได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการสืบสวนขยายผลการจับกุมกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

และในส่วนของคดีที่สาม เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.63 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยไร่ จ.แพร่ ได้ร่วมกับหน่วยทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ ป.ป.ส. ได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่บริเวณ ด่านตรวจห้วยไร่ ม.2 ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ และต่อมาพบรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีน้ำตาล ทะเบียน ณต 3853 กทม. บรรทุกสิ่งของผ่านเข้ามาและสังเกตพบว่ามีความผิดปกติ โดยคนขับทราบชื่อคือ นายพง แซ่ม้า อายุ 36 ปี ชาว ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก จึงได้ทำการตรวจสอบพบว่าภายในรถมียาเสพติด ยาบ้าอยู่ภายในรถคันดังกล่าวถึง 1,000,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดและจับกุมตัวผู้ต้องหา เพื่อทำการสอบสวนและขยายผลต่อไป

อย่างไรก็ตามทั้ง 3 คดี ที่กล่าวมานั้นเป็นการบูรณาการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมกันในการสกัดกั้นขบวนการยาเสพติดไม่ให้เล็ดรอดเข้ามาในพื้นที่ภายในของประเทศ โดยจะเห็นได้ว่าขณะนี้ทางกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดเหล่านี้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการกันในหลายรูปแบบ ทั้งการลักลอบลำเลียงยาเสพติด และการนำเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด นำออกสู่ประเทศ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็ได้มีการทำงานกันอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งในพื้นที่ภายในและพื้นที่ตามแนวชายแดน ที่ได้มีการตรวจสอบกันมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่พบว่ามีกลุ่มคนลักลอบเข้ามาในพื้นที่มากขึ้นตามเส้นทางธรรมชาติและเส้นทางตามแนวตะเข็บชายแดน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้มีการปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสกัดกั้นและป้องกันไม่ให้มีการเล็ดลอดของยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญที่ทางรัฐบาลได้เน้นย้ำมาอย่างต่อเนื่อง

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น