เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2563 นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่มีการพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ยอมรับว่าส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องของจังหวัดเชียงใหม่ที่กำลังมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับจากการย่างเข้าสู่หน้าหนาวที่เป็นฤดูการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล โดยได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากกลุ่มนักท่องเที่ยวในลักษณะหมู่คณะของหน่วยงานรัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษา ที่มีการจองไว้แล้ว แต่ก็ต้องถูกยกเลิกไป ขณะที่นักท่องเที่ยวทั่วไปนั้น แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ยังยืนยันเดินทางท่องเที่ยว และอีกส่วนหนึ่งที่ลังเล
ขณะที่ภาพสะท้อนของผลกระทบที่ที่เห็นได้ชัดอีกอย่างก็คือ จำนวนผู้โดยสารขาเข้าที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดทันที จากช่วงก่อนหน้าที่มีเฉลี่ยวันละประมาณ 1.1 หมื่นคน เหลือเพียงวันละประมาณ 7,000 คน อย่างไรก็ตามวานนี้ (3 ธ.ค.63) พบว่าเริ่มกระเตื้องขึ้นมาเป็นวันละประมาณ 9,000 คน จากการที่ทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ด้วยการบริหารจัดการและควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งผลการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจเชื้อครั้งที่ 2 ของกลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายที่ 42 ทั้งเสี่ยงสูง และเสี่ยงต่ำ รวมทั้งสิ้นประมาณ 600 คน พบว่าผลยังคงเป็นลบทั้งหมด ซึ่งหากครบกำหนดการเฝ้าระวัง 14 วันในวันที่ 9 ธ.ค.63 แล้วยังไม่พบมีผู้ติดเชื้อ เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นตามลำดับส่วนกลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายที่43และ 44 ก็มีเพียง 5-6 คน และผลการเก็บตัวอย่างตรวจเชื้อยังเป็นลบทั้งหมดด้วย ซึ่งต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันและเน้นย้ำว่า จนถึงเวลานี้ยังไม่มีสัญญาณใด ๆ ที่บ่งชี้ให้เห็นได้เลยว่ามีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีแต่เพียงการพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ทุกคนต่างทราบกันดีว่าเป็นผู้ที่เข้ามาจากต่างพื้นที่แล้วมาได้รับการตรวจพบว่าติดเชื้อเข้ามาด้วย ซึ่งจากนั้นเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถบริการจัดการควบคุมสถานการณ์ได้อย่างเร่งด่วนทันที จึงอยากให้ความเชื่อมั่นกับทั้งคนเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยว ว่าเชียงใหม่ยังสามารถใช้ชีวิต และเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันเท่านั้น และผู้ที่เข้ามาท่องเที่ยวก็ไม่ต้องกักตัวด้วยหลังจากท่องเที่ยว
ซึ่งก่อนหน้านี้ภาคเอกชนได้มีมาตรการสร้างความเชื่อมั่นด้วยการพร้อมที่จ่ายเงินทำขวัญให้ 100,000 บาท หากนักท่องเที่ยวคนใดมาเที่ยวเชียงใหม่แล้วติดเชื้อโควิด-19 และหากเสียชีวิตจะจ่ายให้1ล้านบาท เชื่อว่าเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้ระดับหนึ่งแล้ว และหากไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มเมื่อครบกำหนดเฝ้าระวังแล้วจะเป็นสิ่งที่ยิ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างดีที่สุด
ร่วมแสดงความคิดเห็น