ผจว.เชียงใหม่สั่งแล้ว!! มาตรการป้องกันโควิด-19

วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2564 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ผู้กํากับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดเชียงใหม่ ลงนามคําสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1 / 2564 เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

และในวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2564 ได้ออกคําสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 8 / 2564 มาตรการควบคุมการเดินทางของบุคคลที่เดินทางเข้ายังพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ (เพิ่มเติม) และทำการยกเลิกคําสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 8 / 2564 และออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 9 /2564 เรื่อง มาตรการควบคุมการเดินทางของบุคคลที่เดินทางเข้ามายังพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2564 แทนที่ฉบับที่ 8 ซึ่งสั่งยกเลิกไป

เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าในจังหวัดเชียงใหม่ ไม่พบผู้ติดเชื้อเป็นระยะเวลาหลายวันแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 19 มกราคม 2564) และสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จึงพิจารณาออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 11 /2564 เรื่อง ผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2564

ในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2564 ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 12 /2564 เรื่อง ผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยระบุให้ยกเลิกคำสั่งเกี่ยวกับร้านอาหารที่ได้ระบุไว้ในคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1 /2564

โดยฉบับที่ 1 มีเนื้อความดังนี้

ให้สถานบริการ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ถือปฏิบัติดังต่อไปนี้

1. ห้ามให้บริการ ตั้งแต่เวลา 23.00 น. ถึง 05.00 น.
2. ให้ผู้ใช้บริการลงทะเบียนเข้าใช้แอปฯ “ไทยชนะ” เท่านั้น
3. การจํากัดจํานวนผู้ใช้บริการให้เหลือร้อยละ 75
4. ตรวจคัดกรองผู้เข้าใช้บริการตามมาตรฐาน
5. ห้ามจัดให้มีการเต้นหรือจัดให้มีการแสดงเต้น

สำหรับร้านอาหาร ประเภทที่ต้องให้ลูกค้าบริการตนเอง เช่น บุฟเฟต์ ชาบู หมูกระทะ เป็นต้น ให้จัดพนักงานบริการแก่ลูกค้า โดยห้ามลูกค้าตักอาหารจากจุดบริการร่วมกัน และหากร้านอาหารใด มีความจําเป็นที่จะให้ลูกค้าบริการตนเอง ให้เสนอมาตรการในการป้องกันโรคต่อคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพิจารณาอนุญาตเป็นการเฉพาะราย และห้ามใช้สถานที่เพื่อการบริโภคสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่เวลา 23.00 น. ถึง 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

 

ฉบับที่ 8 (ปัจจุบันยกเลิกแล้ว) มีเนื้อความดังนี้

พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และ พื้นที่ควบคุมสูงสุด
1. ต้องแสดงเอกสารรับรองความจำเป็น/การปฏิบัติหน้าที่/การติดต่อราชการ
2. ต้องติดตั้งและใช้ แอปพลิเคชัน “หมอชนะ”
3. ต้องปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1/2564 อย่างเคร่งครัด
พื้นที่ควบคุมและเฝ้าระวังสูง
1. ต้องแสดงเอกสารรับรองความจำเป็น/การปฏิบัติหน้าที่/การติดต่อราชการ
2. ต้องปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1/2564 อย่างเคร่งครัด

ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

 

ฉบับที่ 9 มีเนื้อความดังนี้

1. ยกเลิกข้อความในข้อ 4 ของคำสั่งฉบับที่ 1 /2564

2. ยกเลิกคำสั่งฉบับที่ 8 /2564

3. ผู้ที่เดินทางเข้ามา จ.เชียงใหม่ ทุกช่องทาง ต้องกรอกข้อมูลลงในแอปฯ CM-CHANA

4. ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5 จ. เข้ามายัง จ.เชียงใหม่ ต้องปฏิบัติดังนี้

  1. ) แสดงตนว่าเดินทางมาจากพื้นที่ดังกล่าว และแสดงเอกสารรับรองความจำเป็น/การปฏิบัติหน้าที่/การติดต่อราชการ
  2. ) โหลดและใช้แอปฯ หมอชนะ
  3. ) รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ทันที และปฏิบัติตามคำแนะนำจากแอปฯ CM-CHANA หากไม่ได้รับข้อความจากระบบแอปฯ ติดต่อ 08-4805-2121 และ 08-4805-3131

บุคคลดังกล่าวจะต้องกักตัว 14 วัน หรือตรวจหาเชื้อไวรัสตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อ เว้นแต่มีความจำให้แสดงหลักฐานต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

5. ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด เข้ามายัง จ.เชียงใหม่ ต้องปฏิบัติดังนี้

  1. ) แสดงเอกสารรับรองตน สำหรับการเดินทางเข้ามายังพื้นที่ จ.เชียงใหม่
  2. ) ขอความร่วมมือติดตั้งและใช้แอปฯ หมอชนะ
  3. ) รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ทันที และปฏิบัติตามคำแนะนำจากแอปฯ CM-CHANA หากไม่ได้รับข้อความจากระบบแอปฯ ติดต่อ 08-4805-2121 และ 08-4805-3131

บุคคลดังกล่าวจะต้องกักตัว 14 วัน หรือตรวจหาเชื้อไวรัสตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อ เว้นแต่มีความจำให้แสดงหลักฐานต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

6. ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมและพื้นที่เฝ้าระวังสูง ต้องปฏิบัติดังนี้

  1. ) แจ้งความจำเป็น และสถานที่ที่จะเดินทางเข้ามาใน จ.เชียงใหม่
  2. ) ขอความร่วมมือติดตั้งและใช้แอปฯ หมอชนะ
  3. ) ปฏิบัติตามคำแนะนำจากแอปฯ CM-CHANA หากไม่ได้รับข้อความจากระบบแอปฯ ติดต่อ 08-4805-2121 และ 08-4805-3131

7. คำสั่งหรือประกาศใด มีความขัดแย้งกับคำสั่งฉบับนี้ ให้ถือปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้เท่านั้น

ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

 

ตรวจสอบรายชื่อจังหวัดได้ที่นี่

พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5 จังหวัด ได้แก่

  1. สมุทรสาคร
  2. ระยอง
  3. จันทบุรี
  4. ชลบุรี
  5. ตราด

พื้นที่ควบคุมสูงสุด 23 จังหวัด ได้แก่

  1. กรุงเทพมหานคร
  2. กาญจนบุรี
  3. ฉะเฉิงเทรา
  4. ชุมพร
  5. ตาก
  6. นครนายก
  7. นครปฐม
  8. นนทบุรี
  9. ปทุมธานี
  10. ประจวบคีรีขันธ์
  11. ปราจีนบุรี
  12. พระนครศรีอยุธยา 
  13. เพชรบุรี 
  14. ราชบุรี 
  15. ระนอง
  16. ลพบุรี
  17. สิงห์บุรี
  18. สมุทรปราการ
  19. สมุทรสงคราม
  20. สุพรรณบุรี
  21. สระแก้ว
  22. สระบุรี
  23. อ่างทอง

พื้นที่ควบคุมและพื้นที่เฝ้าระวังสูง 49 จังหวัด ได้แก่

  1. สุโขทัย
  2. กำแพงเพชร
  3. นครสวรรค์
  4. อุทัยธานี
  5. ชัยนาท
  6. เพชรบูรณ์
  7. ชัยภูมิ
  8. บุรีรัมย์
  9. นครราชสีมา
  10. สุราษฎร์ธานี
  11. พังงา
  12. กระบี่
  13. กาฬสินธุ์
  14. ขอนแก่น
  15. เชียงราย
  16. เชียงใหม่
  17. ตรัง
  18. นครพนม
  19. นครศรีธรรมราช
  20. นราธิวาส
  21. น่าน
  22. บึงกาฬ
  23. ปัตตานี
  24. พัทลุง
  25. พิจิตร
  26. พิษณุโลก
  27. แพร่
  28. พะเยา
  29. ภูเก็ต
  30. มหาสารคาม
  31. แม่ฮ่องสอน
  32. มุกดาหาร
  33. ยะลา
  34. ยโสธร
  35. ร้อยเอ็ด
  36. ลำปาง
  37. ลำพูน
  38. เลย
  39. ศรีสะเกษ
  40. สกลนคร
  41. สงขลา
  42. สตูล
  43. สุรินทร์
  44. หนองคาย
  45. หนองบัวลำภู
  46. อุดรธานี
  47. อุตรดิตถ์
  48. อุบลราชธานี
  49. อำนาจเจริญ

 

ฉบับที่ 11 มีเนื้อความดังนี้

1. ยกเลิกข้อความในข้อ 2 ของคำสั่งฉบับที่ 6 /2564

2. ยกเลิกคำสั่งฉบับที่ 7 / 2564

3. ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถให้บริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านได้ ไม่เกิน 22.00 น.

4. คำสั่งใดขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ ให้ใช้คำสั่งนี้แทน

ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

 

ฉบับที่ 12 มีเนื้อความดังนี้

 

1. ยกเลิกข้อความในข้อ 2 ของคำสั่งฉบับที่ 1 /2564 ที่ระบุว่า ให้ร้านอาหาร ประเภทที่ต้องให้ลูกค้าบริหารตนเอง เช่น บุฟเฟต์ ชาบู หมูกระทะ ต้องจัดให้พนักงานบริการแก่ลูกค้า ห้ามให้ลูกค้าตักอาหารจากจุดบริการร่วมกัน และห้ามใช้สถานที่บริโภคสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่ 23.00 น. –  05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. 64 เป็นต้นไป

2. คำสั่งใดขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ ให้ใช้คำสั่งนี้แทน

ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

ร่วมแสดงความคิดเห็น