วันที่ 12 ม.ค.64 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่สถานีรถไฟ จ.เชียงใหม่ ผู้โดยสารทยอยขึ้นรถไฟขบวนรถด่วนที่ 52 ที่จะออกเดินทางจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ไปยังกรุงเทพมหานครในเวลา 15.30 น. เป็นรถด่วนขบวนสุดท้ายตามตารางเดินรถปกติ ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยจะปรับลดขบวนรถไฟเพื่อการพาณิชย์เพื่อลดการเดินทางตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2564 ทำให้ตั้งแต่พรุ่งนี้ขบวนรถไฟขาล่องเชียงใหม่-กรุงเทพฯ จากวันละ 6 ขบวน จะเหลือเพียงวันละ 2 ขบวน คือ ขบวนรถด่วน ในเวลา 08.30 น. และ ด่วนพิเศษ ในเวลา 17.00 น.
โดยบรรยากาศที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ค่อนข้างเงียบเหงา มีผู้โดยสารไม่ถึง 20 คน ไปรอขึ้นรถ ขณะที่ผู้โดยสารทยอยเข้ามาคืนตั๋วโดยสารที่จองไว้ล่วงหน้าและถูกยกเลิกการเดินทางตามมาตรการดังกล่าว
เจ้าหน้าที่บอกว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้ผู้โดยสารลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดเป็นผู้โดยสารคนไทยที่เดินทางไปกลับภูมิลำเนา ส่วนนักท่องเที่ยวไม่ม่มานานหลายเดือนแล้ว ซึ่งไม่เพียงกระทบกับผู้ประกอบการร้านค้าในบริเวณสถานีรถไฟ ยังกระทบกับกลุ่มสี่ล้อรับจ้างสาธารณะที่รายได้หายไปมาก
แม้ผู้โดยสารจะเหลือน้อย แต่สถานีรถไฟเชียงใหม่ยังคงใช้มาตรการทางสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ทั้ง การตรวจวัดคัดกรองผ่านเครื่องเทอร์โมสแกน การเก็บข้อมูลผู้โดยสารผ่านไทยบชนะและระบบกรอกข้อมูล ล่าสุดยังมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบผู้โดยสารที่มาจาก 5 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และ พื้นที่ควบคุมสูงสุด ที่จะต้องมีหนังสือรับรองและรายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าสู่ระบบกักตัวทันทีเป็นเวลา 14 วัน โดยมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงโทษของการฝ่าฝืนที่มีระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ร่วมแสดงความคิดเห็น