เริ่มแล้ว นำร่องใช้น้ำมัน และสารสกัดจากเมล็ดกัญชง ในเครื่องสำอาง

อย. เผย ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การใช้กัญชงในเครื่องสำอาง มีผลใช้บังคับแล้ว (12 ม.ค. 64) นำร่องใช้น้ำมันและสารสกัดจากเมล็ดกัญชงเป็นอันดับแรก และจะขยายไปยังส่วนอื่น ๆ ของกัญชงต่อไป ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอจดแจ้งเครื่องสำอางได้ทุกชนิด ตามเงื่อนไขที่กำหนด ส่วนกฎหมายให้ใช้กัญชา กัญชง ในผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นจะทยอยออกให้มีผลใช้บังคับต่อไป พร้อมชี้แจงการนำใบไปทำเมนูอาหารของอภัยภูเบศรสามารถทำได้ เพราะผู้รับอนุญาตได้มาขอปรับแก้ไขโครงการแล้ว โดย อย. จะออกชุดสื่อประชาสัมพันธ์แนะนำผู้ปรุงอาหาร ให้มีความรู้ในการปรุงอาหารจากกัญชาที่ถูกต้องตามหลักวิชาการต่อไป

เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ปลดล็อกส่วนของกัญชา กัญชงเพื่อให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกกฎหมายรองรับการปลดล็อกดังกล่าว ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในผลิตภัณฑ์สุภาพ ทั้งอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยกฎหมายฉบับแรกที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การใช้กัญชงในเครื่องสำอาง มีผลใช้บังคับตั้งแต่(12 มกราคม 2564) เป็นต้นไป สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ เปิดให้ใช้น้ำมันและสารสกัดจากเมล็ดกัญชงในเครื่องสำอางได้ทุกชนิด ตามเงื่อนไขที่กำหนด และจะขยายให้ใช้ส่วนอื่นของกัญชงในเครื่องสำอาง รวมถึงออกกฎหมายการใช้กัญชา กัญชงในผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ ให้มีผลใช้บังคับต่อไป

รองเลขาธิการ อย. กล่าวต่อไปถึงกรณีที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ออกเมนู “มาชิมกัญ” ว่า สามารถทำได้ เนื่องจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้มาขอแก้ไขโครงการเพื่อนำใบไปใช้ประโยชน์แล้ว และเป็นการจำหน่ายตรงต่อผู้บริโภคจึงไม่ต้องขอเลข อย. ทั้งนี้การนำใบกัญชาไปใช้ปรุงอาหารยังมีข้อควรระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค โดย อย. จะออกชุดสื่อประชาสัมพันธ์แนะนำผู้ปรุงอาหารให้มีความรู้ในการปรุงอาหารจากกัญชา ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการต่อไป

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ข้อมูล https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/02/152437/

ภาพจาก กระทรวงสาธารณสุข

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น