วันที่ 12 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 02.30 น. พ.ต.ท.ปิยะราช ความเพียร รอง ผกก.สส.สภ.วังเหนือ ปฏิบัติราชการ กก.สส.ภ.จ.ลำปาง พร้อมด้วย ร.ต.อ.อานนท์ ผงปง รอง สว.กก.สส. ร.ต.ท.สมาน ปันทะโชติ รอง สว.(สส.) ร.ต.อ.อติชัย ยศเรืองศรี รอง สว.(ป) ร.ต.ท.บุญเทียน ตาใจ รอง สว.(ป.) ด.ต.เกษม เครือคำแดง ด.ต.วรยุทธ ต๊ะค่า ได้ร่วมกันทำการจับกุม นายณัฐวัฒน์ หรือเยียว อายุ 32 ปี ราษฎรบ้านหมู่ที่ 3 ต.บ้านเป้า อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 150 โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อหัวเหว่ย สีดำ จำนวน 1 เครื่อง โดยกล่าวหา“มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย”
ก่อนการจับกุมดังกล่าว ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายเยียว ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง มีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มผู้เสพและประชาชนทั่วไป สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านละแวกใกล้เคียง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงวางแผนให้สายลับติดต่อกับนายเยียว ทางไลน์ พูดคุยทางโทรศัพท์ สั่งซื้อยาบ้า จำนวน 150 เม็ด ในราคา 4,000 บาท และนัดซื้อขายส่งมอบยาบ้ากันบริเวณ หอพักในพื้นที่ ต.กล้วยแพะ อ.เมือง จ.ลำปาง
ก่อนถึงเวลานัดหมาย จนท.มอบเงินสด จำนวน 4,000 บาท มอบให้กับสายลับไปทำการล่อซื้อยาบ้าจาก นายเยียว ก่อนให้สายลับไปทำการล่อซื้อยาบ้า โดยมีกำลังเจ้าห้าที่ส่วนหนึ่งซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียง เมื่อถึงเวลานัดหมายนายเยียว ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณหน้าหอพัก จากนั้นได้เดินขึ้นไปหาสายลับบริเวณห้องพัก ขณะที่สายลับจะยื่นเงินล่อซื้อให้กับนายเยียว อยู่นั้น ปรากฏว่านายเยียว เกิดไหวตัวทันพยายามจะหลบหนี กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงกรู่ล้อมจับกุมตัวนายเยียวเอาไว้ได้
ภายหลังทราบชื่อจริงคือ นายณัฐวัฒน์ จากนั้นได้ทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 150 เม็ด อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังข้างขวา สอบถามนายณัฐวัฒน์ ให้การรับว่าเป็นยาบ้าของตนเองที่จะนำมาจำหน่าย และตรวจพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหัวเหว่ย สีดำ จำนวน 1 เครื่องในมือขวาของนายณัฐวัฒน์ จึงได้ตรวจยึดสิ่งของทั้งหมดไว้เป็นของกลาง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์นคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย
และก่อนหน้านี้ของวันเดียวกันเวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว ยังได้ร่วมกันทำการจับกุม นายมงคลหรือเบส อายุ 24 ปี ราษฎรบ้าน หมู่ที่ 4 ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง และนายทีปกร หรือบาส อายุ 21 ปี ราษฎรบ้านหมู่ที่ 1 ต.หัวเมือง ต.เมืองปาน จ.ลำปาง ของกลาง ยาบ้า จำนวน 870 เม็ด และยาบ้านับจำนวนไม่ได้เนื่องจากเปียกน้ำ น้ำหนักประมาณ 23.24 กรัม แยกบรรจุในถุงพลาสติกสีดำมีผนึกปิดเปิดจำนวน 2 ถุง ๆละ 11.85 กรัม จำนวน 1 ถุง ๆละ 11.39 กรัม จำนวน 1 ถุง อาวุธปืนปากกา จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนไม่ทราบชนิดขนาดและยี่ห้อจำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัด
โทรศัพท์มือถือยี่ห้อวีโว สีดำ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อออปโป สีน้ำเงินคราม สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ รวม 5 เล่ม
ก่อนที่จะมีการจับกุมสืบทราบว่านายเบส มีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มผู้เสพและประชาชนทั่วไป จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมา ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายเบส ได้เก็บยาบ้าจำนวนหนึ่ง เพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้า และได้มาเช่าพักอาศัยอยู่ห้องเช่าไม่มีเลขที่พื้นที่หมู่ที่ 13 บ้านป่าแลว ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง กำลังเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบ กระทั่งพบนายเบส ตำหนิรูปพรรณตรงกันกับที่สายลับแจ้ง นั่งอยู่บริเวณโต๊ะแคร่หน้าห้องพัก โดยมีท่าทีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและตรวจค้น นายเบส หรือนายมงคล ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนปากกา จำนวน 1 กระบอก บนโต๊ะแคร่ โดยนายมงคลรับว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของตนเอง และรับว่าได้เสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในห้องพัก แต่พอเปิดประตู พบมีชายวัยรุ่นรายหนึ่งอยู่ภายในห้อง พอเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รีบเข้าห้องน้ำภายในห้อง และได้ล็อคประตูห้องน้ำไว้ จึงเรียกให้เปิดประตูออกมา กระทั่งพบว่าชื่อนายทีปกร หรือบาส จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้น กระทั่งพบยาบ้าจำนวน 870 เม็ด และยาบ้าที่เปียกน้ำน้ำหนักประมาณ 23.24 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในถังน้ำพักชักโครกภายในห้องน้ำ
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำออกมาให้นายมงคล และนายทีปกร ต่อมาทั้งสองจึงให้การรับว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตนเองและจากการตรวจอย่างละเอียดพบอาวุธปืนไม่ทราบขนาดและยี่ห้อ จำนวน 1 กระบอก พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบจำนวนหนึ่ง กระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัด ซองพกในจำนวน 1 ซอง โดยนายมงคล รับว่าเป็นของตนเอง จึงตรวจยึดสิ่งของทั้งหมดไว้เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์นคร ดำเนินคดีต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น