อากาศเมืองแพร่ยังหนาวเหน็บ หนุ่มใหญ่ออกไปนอนกลางแดด สุดท้ายสังเวยภัยหนาวดับ !

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 14 ม.ค.64ขณะที่ ร.ต.ท.(ญ.)นุชนาฏ มูลอะมี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองแพร่ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนประจำวัน สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิต ภายในอู่วัชระเซอร์วิส (ช่างต้อง) เลขที่ 35/8 หมู่ 3 ต.ทุ่งกวาว อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ รุดไปที่เกิดเหตุร่วมกับ ร.ต.ต.โสภณ วิโรจน์ รองสว.(ป)สภ.เมืองแพร่ตำรวจสายตรวจทุ่งกวาว แพทย์เวร รพ.แพร่ และ กู้ชีพแพร่-ราม หน่วยกู้ภัยแพร่ ตรวจอบที่เกิดเหตุพร้อมชุดป้องกันโรคโควิด19 เนื่องจากไม่ทราบข้อมูลผู้เสียชีวิต

เมื่อไปถึงทึ่เกิดเหตุพบว่าอยู่ข้างห้องพักคนงานของอู่ พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นายกิติศักดิ์ อารินทร์ อายุ 37 ปี ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่ นอนเสียชีวิตบนฟูก ข้างกองไฟ สวมเสื้อแขนยาวสีแดง เสื้อกั๊กสีขาว กางเกงวอร์มขายาว สวมหมวกไหมพรม เสียชีวิตมาแล้วหลายชั่วโมง เนื่องจากร่างกายเริ่มแข็งกระด้าง

จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือการฆาตกรรมแต่อย่างใดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้บันทึกที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน แพทย์เวร ร่วมชันสูตรพลิกศพ สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากผู้ตายมีโรคประจำตัวหลายอย่าง ประกอบกับอากาศหนาวเย็นในช่วงนี้

จากการให้การของ นายวัชระ ทอนคำ อายุ 37 ปี เจ้าของอู่ ให้การว่า ผู้ตายเคยทำงานด้วยกันที่อู่นี้ แต่กลับไปอยู่บ้านเพราะมีอากการป่วยหลายโรค ที่ผ่านมาหากมาหาหมอ ที่ตัวเมืองแพร่ ก็จะเดินทางมาขอพักที่อู่ เพราะว่าการเดินทางไปกลับ-ไกล ละต้องรอญาติเดินทางมาถึงจะได้กลับ ล่าสุดขอพักที่อู่ มาตั้งแต่วันเสาร์ ออกจาก รพ.แพร่ มา แต่มานอนเอาเงินผู้พิการ ที่ ธกส.ทุ่งโฮ้ง แล้วรอญาติมารับกลับบ้าน โดยช่วงเช่ายังมีคนเห็นเดินข้ามถนนไปซื้อของ

พอช่วงประมาณ บ่าย 3 โมงกว่า ที่ตนกลับเข้ามาในอู่ เพราะต้องออกไปซ่อมรถคันอื่นนอกสถานที่ กลับมาถึงมาเรียก ชื่อดมๆ พบว่าเสียชีวิตแล้ว เพื่อไม่ให้อุจาดตา จึงใช้ผ้าห่ม ห่มร่าง แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับนายดมฯ ผู้ตายมีโรคประจำตัวหลายโรค และทุกคืนมักจะบ่นหนาวสะท้าน ต้องสวมเสื้อผ้าหนาๆ และจะต้องไปซื้อถ่านมาจุดไฟผิง ทั่งวัน วันนี้น่าจะหนาว จึงได้มานอนผึ่งแดด จนมาพบว่าเสียชีวิตแล้วดังกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น