เมื่อช่วงค่ำคืน เวลาประมาณ 23.30 น. ของวันที่ 16 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพฤทธิ์ กันทา ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.อ.สัมพันธ์ ศิริมา ผกก.สภ.แม่โจ้ ชุดสืบสวนจังหวัด สืบสวนพื้นที่ และฝ่ายปกครอง จำนวนประมาณ 50 นาย นำกำลังเข้าทำการจับกุมบ่อนการพนันที่แอบลักลอบเปิดภายในบริเวณ ศิริลักษณ์ รีสอร์ท ถ.ร่มโพธิ์ทอง ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมทั้งได้ร่วมกันทำการจับกุมกลุ่มนักพนันจำนวนรวม 33 คน แบ่งเป็น ชาย 13 คน และ หญิง 20 คน โดยในกลุ่มนักพนันทั้งหมดยังมีบุคคลที่เป็นต่างด้าว รวมอยู่ด้วย 4 คน โดยเป็นชาวกัมพูชา หญิง 3 คน และชาย 1 คน ตรวจยึดของกลางเป็นชิปที่ใช้สำหรับใช้ในการพนัน รวมมูลค่าประมาณ 10,000 กว่าบาท , ไพ่ที่ใช้ในการเล่นพนันบาคาร่า จำนวนหลายสำรับ , โต๊ะบาคาร่า พร้อมด้วยอุปกรณ์ในการเล่น และ ตู้สล็อต จำนวน 29 ตู้ ก่อนจะทำการตรวจยึดของกลางและควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมายัง สภ.แม่โจ้
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบมาว่า สถานที่ดังกล่าวได้มีการเปิดเป็นบ่อนลักลอบเล่นการพนันตู้สล็อต และไพ่บาคาร่า ประกอบกับในช่วงนี้ทางจังหวัดได้มีมาตรการในการเข้มงวด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่จากการสืบทราบพบว่าสถานที่ดังกล่าวได้มีการเปิดให้กลุ่มนักพนันทั้งชายและหญิงเข้าไปมั่วสุมกันจำนวนมากโดยไม่มีมาตรการในการป้องกันแต่อย่างใด เมื่อทางเจ้าหน้าที่ทราบดังนั้นจึงได้นำกำลังเข้าทำการตรวจสอบโดยทันที
โดยเมื่อมาถึงยังสถานที่จับกุม พบว่ามีการเปิดเป็นรีสอร์ด และแบ่งอาคารออกเป็นห้องๆ ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่พบ นางศิริลักษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของสถานที่ จึงได้แสดงตัวเพื่อขอเข้าทำการตรวจค้น โดยภายในห้องพบกลุ่มนักพนันทั้งชายและหญิงจำนวนมาก กำลังจับกลุ่มกันเล่นพนันไพ่บาคาร่าอยู่ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวกลุ่มนักพนันทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.แม่โจ้ พร้อมทั้งได้ทำการตรวจยึดของกลางซึ่งเป็นชิปเงินที่ใช้ในการเล่นพนันดังกล่าว รวมไปถึงไพ่ , โต๊ะ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่น และตู้สล็อตที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตามในการจับกุมครั้งนี้เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินในความผิดฐาน “ร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน และพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต , ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรประกอบข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 15) ข้อ 3 และ (ฉบับที่ 17) ข้อ 3 และข้อ 4 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) (ฉบับที่ 2)” ส่วนข้อหาอื่นๆ นั้นอยู่ในระหว่างการสอบสวนขยายผล หากพบว่ามีความผิดฐานอื่นๆ ก็จะถูกเพิ่มข้อหาในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น