(มีคลิป) เฉพาะกิจ ป.ป.ส. รวบอดีตผู้รับเหมาก่อสร้าง พร้อมเฮโรอีน 35 กิโลกรัมเกือบร้อยล้าน คาด่านโควิดบ้านหลวง

เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 64 เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ , พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร., นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส., พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส., นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5, พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 ,พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต รอง ผบช.ภ.5 พล.ท.ฉลองชัย  ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3, พล.ต.ถนัดพล  โกศัยเสวี ผบ.กกล.ผาเมือง, พล.ต.ต.มงคล  สัมภวะผล  ผบก.ภ.จว.น่าน, พ.ต.อ.วินัย เกตุพันธุ์ , พ.ต.อ.จักร อ่อนนิ่ม ,พ.ต.อ.ดเรศ กัลยา, พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์  กัลยาวัฒนเจริญ, พ.ต.อ.พงศกร  รัศมีโรจน์สกุล รอง ผบก.ภ.จว.น่าน, พ.ต.อ.วัชรพันธ์  ปัญญาเนรมิตดี  ผกก.สส.ภ.จว.น่าน, พ.ต.ท.อุทัย วงค์คำแสน,พ.ต.ท.ยุทธพงษ์  เมฆคะ รอง ผกก.สส.ภ.จว.น่าน นายนิพันธ์ บุญหลวง ผวจ.น่าน นายนิวัฒน์ งามธุระ รอง ผวจ.น่าน, พล.ต.รุศมนตรี จิณเสน ผบ.มทบ.38 ,นายชัยพล โรจนวิสิฐ นายอำเภอบ้านหลวง ,สำนักงาน ปปส.4, DEA สหรัฐอเมริกา ประจำจ.เชียงใหม่ หน่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.น่าน  ชป.ขยายผลและยึดทรัพย์ยาเสพติด ศอ.ปส.ภ.จว.น่าน สภ.บ้านหลวง สภ.นาน้อย  เจ้าหน้าที่ สำนักงาน ปปส.4 ร่วมกับ DEA สหรัฐอเมริกา ประจำจ.เชียงใหม่, สภ.แม่สาย  เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง   ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณ ด่านควบคุมโรคโควิด 19 บ้านนาหวายใหม่ ม.5 ต.ป่าคาหลวง อ.บ้านหลวง จ.น่าน ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้อง 3 ราย คือ

ผู้ต้องหาที่ 1 นายธีนพันธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี บ้าน ม.4 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี (ภมูิลำเนาเดิม อ.นาน้อย จ.น่าน)

ผู้ต้องหาที่ 2 นายสุรเดช (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี บ้าน ม.4 ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี (ภูมิลำเนาเดิม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่)

ผู้ต้องหาที่ 3 นายกมล (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี บ้าน ม.3 ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ขณะลงรถมาลงทะเบียนและตรวจคัดกรองโรคโควิด พร้อมด้วยของกลาง

  1. เฮโรอีน จำนวน 50 คู่ (100 แท่ง) น้ำหนักประมาณ 35 กิโลกรัม ราคาเกือบร้อยล้าน ภายหลังจากการตรวจค้นรถโดยละเอียด พบช่องซุกซ่อนบริเวณกระบะท้ายรถคันที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายขับมา
  2. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ ฟอร์ด รุ่น เรนเจอร์ สีขาว ทะเบียนกทม. โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า“ร่วมกันกันมียาเสพติดประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย”

หลังจากที่ ชุดเฉพาะกิจตรวจยึดจับกุมสืบสวนทราบว่า มีกระบวนการค้ายาเสพติด ทำการลำเลียงเฮโรอีน จากชายแดนภาคเหนือ ไปยัง อ.สุไหงโกลก โดยรูปแบบการลำเลียงดังกล่าว กลุ่มผู้ลำเลียงจะนำรถยนต์ซึ่งมีลักษณะเหมือนกัน สร้างช่องลับ โดยถอดแมกไลเนอร์ ออก แล้วนำยาเสพติดซุกซ่อนใน ด้านข้างของแมกไลเนอร์ดังกล่าว เดินทางมาจากจังหวัดปทุมธานี มาจอดไว้ที่บ้านญาติของนายธีนพันธ์ฯ ที่ อ.นาน้อย จ.น่าน แล้วใช้รถยนต์อีกคันหนึ่งขึ้นไปรับยาเสพติด โดยซุกซ่อนยาเสพติดในช่องลับที่สร้างไว้ แล้วเดินทางเลี่ยงด่านกลับมาที่ อ.นาน้อย จ.น่าน เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่รัฐ ว่ารถยนต์คันที่มียาเสพติดนั้น ไม่ได้มาจากจังหวัดชายแดนภาคเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งพักยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตามด่านต่างๆ จึงไม่เข้มงวดในการตรวจค้น

โดยในครั้งนี้ ได้ใช้รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ ฟอร์ด รุ่น เรนเจอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กทม.  จอดไว้ที่ อ.นาน้อย จ.น่าน แล้วใช้รถรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ ฟอร์ด รุ่น เรนเจอร์ สีขาว ทะเบียน กทม. เดินทางขึ้นไปรับยาเสพติดที่ อ.แม่สาย  โดยพักรอที่ โรงแรมสตาร์รีสอร์ท ตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ. 2564   แต่เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว มีการจับกุมยาเสพติดจำนวนมาก ทางเจ้าของยาเสพติดจึงส่งยาให้ช้า จนกระทั่งในวันที่ 17 ก.พ. 2564   จึงมีคำสั่งให้มารับยาเสพติดของกลางบริเวณทุ่งนาข้างสุเหร่า ซึ่งห่างจากโรงแรมประมาณ 2 กม. แล้วนำยาเสพติดกลับมาที่รีสอร์ทเพื่อนำมาใส่ช่องลับ  ในช่วงเช้าวันที่ 18 ก.พ. 2564   จึงได้เดินทางกลับมายังจังหวัดน่าน แต่ถูกจับกุมเสียก่อน

พล.ต.ต.มงคล  สัมภวะผล  ผบก.ภ.จว.น่าน เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้สนธิกำลังกันติดตามพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าวมานานกว่า 1 ปี แต่ไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหารายดังกล่าวหลบหนีและตบตาเจ้าหน้าที่ทำให้หลบหนีการจับกุมไปได้จนครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรม จนสบโอกาสที่จังหวัดน่านยังคงมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ที่ผู้เดินทางเข้าออกจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนการคัดกรองโรค ทำให้ผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวต้องลงรถ ทำให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวไม่สามารถหลบหนีรวมทั้งพกพาอาวุธเพื่อต่อสู้ขัดขืนการจับกุมได้ ซึ่ง กลุ่มผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย เป็นกระบวนการค้ายาเสพติด ทำการลำเลียงเฮโรอีน จากชายแดนภาคเหนือ ไปยัง อ.สุไหงโกลก มาแล้ว 2 ครั้งและนำไปส่งในพื้นที่ของผู้ต้องหา รายที่ 1 จังหวัดปทุมธานี จำนวน 3 ครั้งด้วยกัน

โดยเฉพาะผู้ต้องหาคนที่ 1 อดีตเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างในอำเภอนาน้อยได้ไปรับเหมาก่อสร้างกิจการที่กทมและต่างจังหวัดประสบกับเศรษฐกิจไม่ดีในหลายปีที่ผ่านมาจึงหันเหย้ายจากจังหวัดน่านไปตั้งรกรากอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ทำกิจการบางอย่างบางหน้าจนร่ำรวย

ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ติดตามพฤติกรรมมาตลอดจนกระทั่งถูกจับกุมในครั้งนี้ ทาง จนท.ได้มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปราบปรามเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด โดยเฉพาะนายทุนระดับผู้สั่งการและผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเน้นการยึดอายัดทรัพย์สิน ทำลายโครงสร้างและตัดวงจรทางการเงินของเครือข่ายยาเสพติดอย่างเด็ดขาดและจริงจัง ภายใต้คำสั่งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ที่ 5/2563 เรื่อง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดและได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติเพิ่มเติม ตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ต่อไป

ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น

ร่วมแสดงความคิดเห็น