(มีคลิป) บุกตรวจสอบร้านค้าใน อ.แม่ริม หลังประชาชนร้องเรียนมีการบวกภาษี ร้อยละ 7 พบสินค้าควบคุมหน้ากากอนามัยไม่ติดป้าย และจำหน่ายเกินราคา

คืบหน้ากรณีชาวบ้านในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ สุดงง! ร้านค้าแห่งหนึ่ง ขึ้นป้ายหราบอกลูกค้าที่มาซื้อของภายในร้าน ซึ่งที่ใช้สิทธิเข้าร่วมโครงการเราชนะ และสิทธิคนละครึ่ง สิทธิบัตรประชารัฐ ต้องเสียภาษี ร้อยละ 7 จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และสร้างความมึนงงให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ตามที่เราได้นำสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุดเช้าวันนี้ (23 กพ.) เวลา 10.00น. นางทิพาภรณ์ ชัยศิริกุล ธีรเมทินี เจ้าหน้าที่ทางพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมนายบุญฤทธิ์ นิปวนิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม และนายศิวะ ศิวะศาสนพงศ์ สรรพากรอำเภอแม่ริม เข้าตรวจสอบร้านดังกล่าว

จากการตรวจสอบวันนี้พบว่าร้านดังกล่าว ได้มีการเปลี่ยนป้ายข้อความที่บอกลูกค้า จากเดิมที่ติดป้ายบอกไว้ว่ามีการบวกภาษี ร้อยละ 7 ตอนนี้เปลี่ยนป้ายเป็นราคาสินค้าบวกภาษีไปแล้ว ร้อยละ 7 นอกจากมีการตรวจสอบป้ายสินค้าแล้วทางพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการตรวจสอบราคาสินค้า และป้ายสินค้าด้วย พบว่าสินค้าบางรายการไม่ได้มีการติดป้ายราคา และมีการจำหน่ายราคาปลีกเกินราคา อย่างเช่น หน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมทางพาณิชย์จังหวัด ให้จำหน่ายในราคาไม่เกิน 2.5 บาท แต่ทางร้านจำหน่ายในราคาชิ้นละ 5 บาท ทางพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่จึงทำการเปรียบเทียบปรับไป 1,000 บาท

จากการสอบถาม นายสกล ลิมโกมลวิลาศ อายุ 43 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่าร้านของตนพึ่งเข้าร่วมโครงการเราชนะ คนละครึ่ง และโครงการประชารัฐ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังลูกค้าได้เรียกร้อง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการเข้าใจผิดของพนักงาน ที่มีการบวกราคาสินค้าเพิ่มอีก 7 % จนกลายเป็นกระแสในโซเชียล

ประกอบกับทางร้านมีโทรศัพท์ในการสแกนเครื่องเดียว จึงขึ้นป้ายแบบนั้นถือว่าเป็นความผิดพลาด ซึ่งขณะนี้ตนก็ได้ปรับปรุงแล้ว ฝากขอโทษลูกค้าทุกคนที่มาซื้อของก่อนหน้านี้แล้ว พนักงานมีการบวกภาษีไปอีก ร้อยละ 7 ซึ่งหลังจากนี้ไปการซื้อสินค้านั้น จะไม่มีการบวกเพราะสิ้นค้าทุกอย่างรวมภาษีไปหมดแล้ว แต่ใบเสร็จของทางร้านนั้นเป็นใบเสร็จฉบับย่อ ซึ่งทางสรรพากรได้แนะนำให้มีการใส่เลขผู้เสียภาษี บนหัวบิลใบเสร็จของทางร้านด้วยตนก็จะเร่งทำ

ขณะที่ นายบุญฤทธิ์ นิปวนิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับร้องเรียนร้านค้าหลายแห่ง ที่มีการบวกราคาสินค้า ผลักภาระให้ประชาชนเสียภาษีซึ่งไม่ถูกต้อง ภาษีทุกอย่างรวมอยู่ในราคาสินค้าที่เราซื้ออยู่แล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปทางอำเภอจะลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าต่างๆอย่างเข้มงวด เพื่อเป็นกันป้องกัน และป้องปรามไม่ให้ร้านค้าเอาเปรียบผู้บริโภคนั้นมีความผิด ซึ่งถ้าหากมีการตรวจเจอจะมีการดำเนินการทางกฏหมาหมาย และตัดสิทธิ์ ในการร่วมโครงการ ซึ่งครั้งแรกก็ต้องเป็นการตักเตือนไปก่อน แต่หากพบกระทำผิดอีก ก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที


กรรณิกา

ร่วมแสดงความคิดเห็น