แม่บ้านชาว อ.สารภี ร้องขอตำรวจช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ ไม่มีเงินส่งแล้วขอหยุดเก็บก่อน แล้วจะส่งคืนเงินต้นให้

เมื่อเวลา 15.20 น.วันที่ 26 ก.พ. 2564 นายนิพนธ์ ยืนบุญ ผู้ใหญ่บ้านกู่แดง หมู่ 7 ต.หนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เข้าพบกับนางติ๋ม (นามสมมุติ) วัย 51 ปีลูกบ้านเพื่อสอบข้อมูลเกี่ยวกับการกู้เงินนอกระบบ จากนายทุนที่ได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่,ตำรวจภาค 5 และสภ.สารภี

โดยนางติ๋มฯได้เล่าว่าแต่เดิมนั้นมีอาชีพตั้งฟาร์มนกกระทา ในพื้นที่ ต.ป่าแดด อ.สารภี และเคยได้กู้เงินนอกระบบมาจำนวนนับแสนบาทครั้งแรกได้ปิดบัญชีไป แล้วได้กู้ใหม่มาอีกเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 เป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท ดอกลอย จำนวน 200,000 บาท ส่งคืนรายวันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งย้ายบ้านมาอยู่ที่ ต.หนองแฝก ทางเธอได้ป่วยเป็นโรคพุ่งพ่วง หรือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง และทางสามี วัย 47 ปีได้ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนสุนัข บาดเจ็บสาหัสรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู จึงต้องการใช้เงินในการรักษาตัวเอง สามี และค่าใช้จ่ายภายในบ้าน
จึงตัดสินใจกู้เงินกู้นอกระบบเพิ่มขึ้นอีกเป็นสายที่ 2 จำนวนเงิน 50,000 บาท, สายที่ 3 จำนวนเงิน 30,000 บาท และสายที่ 4 จำนวนเงิน 20,000 บาท รวมจำนวนเงินทั้ง 4 สายที่ส่งในแต่ละวัน ร่วม 10,000 บาท ก็ไม่เคยขาดส่งเลย ลูกชายที่มีอาชีพเป็นนักดนตรีได้พยายามช่วยเหลือส่งเงินรายวันอย่างสุดความสามารถขายทั้งรถ ขายกีตาร์เครื่องมือหากิน เพื่อส่งรายวันให้กับแม่

จนมาถึงวันนี้นางติ๋ม เล่าว่าจนตรอกจริงๆได้นำโฉนดที่ดินและบ้านยื่นกู้เงินจากธนาคารในราคา 2,800,000 บาท เพื่อนำเงินมาเคลียร์หนี้สินแต่ก็อยู่ในระหว่างการอนุมัติของธนาคารอยู่ เมื่อไม่มีเงินสดให้นายทุนเงินกู้นอกระบบ จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ดังกล่าว เพื่อช่วยไกล่เกลี่ยนายทุนเงินกู้นอกระบบขอหยุดเก็บเงินรายวันก่อนทั้ง 4 สาย ส่วนเงินต้นที่ยังค้างอยู่จำนวนเท่าใด เพื่อได้เงินกู้จากธนาคารจะชดใช้คืนทั้งหมด ไม่มีความประสงค์ดำเนินคดี หรือ เบี้ยวเงินที่กู้มาแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่สืบสวนฯรับฟังข้อมูลแล้วจะนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อติดต่อกับเจ้าหนี้เพื่อดำเนินการไกล่เกลี่ยตามความประสงค์ของนางติ๋ม ต่อไป
ทางด้านนายนิพนธ์ ยืนบุญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านกู่แดง กล่าวว่าเมื่อวันที่ 23 ก.พ.2564 ได้รับหนังสือเวียนจากทางอำเภอสารภีมีข้อความว่า เรียนกำนัน/ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน/ตำบล หากมีแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ย ทาวงหนีนอกระบบ(เกินอันตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนด) เข้ามาทวงหนี้ในหมู่บ้าน ให้รีบดำเนินการจับกุม และหรือประสานแจ้งตำรวจเข้าร่วมจับกุม และขอให้ ปชส.ให้ราษฎรได้ทราบโดยทั่วกันด้วย จนกระทั่งมีนางติ๋ม ลูกบ้านเข้าปรึกษาและนำตำรวจเข้าสอบปากคำขขอข้อมูลดังกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น