ตำรวจนำฮาร์ดดิสข้อมูลของธนาคารส่งเข้ากรุงเทพเพื่อดูข้อมูลของธนาคารในวันเกิดเหตุ คาดจะรู้ข้อมูลในฮาร์ดดิส 3 วัน ขณะที่การไล่ล่าคนร้ายยังดำเนินต่อเนื่อง พุ่งเป้ารถเก๋งยี่ห้อแอชทาร์ชสีดำ

จากกรณี เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 64 พล.ต.ต. พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ชัชวรินทร์ บุนนาค ผกก.สภ.จอมทองจ.เชียงใหม่ ว่า เกิดเหตุคนร้ายบุกเผาและเจาะตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาจอมทอง ตั้งอยู่หมู่ 5 ถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ต.ข่วงเปา อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ฉกเงินสดไปได้กว่า 2.1 ล้านบาท โดยที่คนร้ายนั้นได้ก่อเหตุตั้งแต่ ประมาณคืนวันที่ 24 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงระหว่างที่ก่อเหตุนั้น สาขาดังกล่าวได้ปิดสาขาไปนานแล้วตั้งแต่เดือนก.ค. 63 แต่ตู้เอทีเอ็มยังเปิดให้ประชาชนที่อยู่พื้นที่จอมทอง บริการอยู่ หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ควานหาเบาะแสกันทั้งวันทั้งคืน จนกระทั่งพบรถต้องสงสัยเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อแอชทาร์ชสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับวนที่เกิดเหตุ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ข่าวความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 ก.พ. 64 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สถานีตำรวจภูธรอำเภอจอมทอง จ.เชียงหม่ พ.ต.อ.ชัชวรินทร์ บุนนาค ผกก.สภ.จอมทอง ได้เรียกตำรวจชุดสืบสวน สวป.สภ.จอมทอง เพื่อประชุมวางแผนติดตามคนร้าย หลังมีเบาะแสออกมาเรื่อย ๆ ว่าคนร้ายนั้นใช้รถยนต์เก๋งสีดำยี่ห้อแอชทาร์ช ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งคนร้ายมีอย่างน้อย 3 คน และคาดว่าจะเป็นคนที่เคยเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ธนาคาร เนื่องจากทราบแม้กระทั่งเอาเงินเข้าวันไหน จึงลงมือ และเอาเฉพาะแบงค์พันที่อยู่ในตู้กว่า สองล้านบาทเศษหลบหนีไป จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้หลักฐานชิ้นดีเป็นคราบเลือดของคนร้ายที่ติดอยู่กับตู้คาดว่าคงจะโดนเหล็กบาดที่มือขณะล้วงเอาเงิน

ขณะเดียวกันทาง ผกก.สภ.จอมทอง ขอไม่ให้สัมภาษณ์ เนื่องจากหวั่นคดีจะทำให้คนร้ายไหวตัวหนีไปซึ่งตำรวจทำงานกันอย่างหนักทั้งวันทั้งคืนเพื่อติดตามตัวคนร้ายให้ได้เร็ววัน และวันนี้ก็เช่นเดียวกันได้เรียกพนักงานของธนาคารมาตรวจสอบฮาร์ดดิสเกี่ยวกับข้อมูลธนาคารทั้งหมดไปตรวจสอบและทางตำรวจจะขอนำไปโหลดข้อมูลที่กรุงเทพมหานคร คาดว่าใช้เวลาประมาณ 3 วันจึงจะทราบข้อมูลในฮาร์ดดิสทั้งหมด ซึ่งความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น