พบผู้สูงอายุในพื้นที่ อ.ดอยเต่าถูกสวมสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่ม อีก 2 ราย หลังจากก่อนหน้านี้เคยขอพร้อมกันกับสามีแต่ฝ่ายภรรยาไม้ได้ ความแตกหลังจากที่หลานช่วยขึ้นทะเบียน เราชนะ กลับพบใช้สิทธิ์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ล่าสุดมีคนนำบัตรมาคืนให้ทั้ง 2 รายแล้ว ทำให้ขณะนี้ชาวบ้านถูกสวมสิทธิรวม 18 คน
ความคืบหน้ากรณี ชาวบ้านบงตัน ต.บงตัน อ.ดอยเต่า หลายราย ถูกสวมสิทธิ์มีมือดีนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นำไปใช้จ่ายหลังจากบ้านสมัครขอใช้สิทธิ์เมื่อประมาณ 2 ปีก่อนโดยมีการตั้งโต๊ะให้บริการในหอประชุมหมู่บ้าน ชาวบ้านบ้างส่วนได้สิทธิ์ แต่ชาวบ้าน บางส่วนกลับไม่ได้สิทธิ์ (บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) จึงเข้าใจว่าตนไม่ได้รับสิทธิ์นั้น เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยหลังจากที่ ทางภาครัฐจัดโครงการเราชนะ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ทำให้ประชาชนที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มคนที่อ่านหนังสือไม่ออก บอกให้ลูกหลายช่วยสมัครใช้สิทธิ์ โครงการ เราชนะ แผ่นแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือ แต่กลับพบว่าได้รับสิทธิ์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหลายคน จึงทำให้ชาวบ้านไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ ที่ว่าการอำเภอดอยเต่า และไปสอบถามกับธนาคาร พบว่ามีคนนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไปใช้นานเกือบ 2 ปี จึงได้เข้าร้องเรียนกับอำเภอดอยเต่า และมีการแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.ดอยเต่า
ซึ่งชาวบ้านได้เปิดเผยยอด ผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3 หมู่บ้านในพื้นที่ ต.บงตัน อ.ดอยเต่า มาเปิดเผยพบว่ามีรายชื่อ 15 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ คนพิการ และคนที่ไม่รู้หนังสือ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านแม่ตูบ ต.โป่งทุ่ง อ.ดอยเต่า พบว่ามีผู้สูงอายุถูกสวมสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2 คน รายแรกคือนางแก้ว นามสมมุติ อายุ 90 ปี ชาวบ้านแม่ตูบ ต.โป่งทุ่ง อ.ดอยเต่า ซึ่งนางสาคร นามสมมุติ ลูกสาว นางแก้ว เปิดเผยว่าเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ได้มีการตั้งโต๊ะรับสมัครการใช้สิทธิ์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในหมู่บ้านตนจึงได้พาพ่อ และแม่ คือนายสิงคำ นามสมมุติ และนางแก้ว ไปสมัครใช้สิทธิ์ หลังจากทราบผลปรากฏว่ามีเพียงพ่อคนเดียวเท่านั้นที่ได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่วนแม่ไม่ได้บัตร จึงเข้าใจมาตลอดว่าแม่ไม่ได้รับสิทธิ จนมีโครงการเราชนะ จึงได้ให้ลูกสาวเช็คสิทธิ์ของแม่ กับระบบคอมพิวเตอร์ปรากฏว่าระบบแจ้งว่านางแก้ว ได้รับสิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐ ไปแล้ว ต่อมาไม่นานมีคนฝากบัตรสวัสดิการแห่งมาคืน จึงเกิดความสบสนว่า ตอนนั้นตนนำพ่อ และแม่ไปสมัครขอใช้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐแต่พ่อ กลับผ่านคนเดียว ทั้งๆ ที่ท่านทั้งสองอายุเท่ากัน แต่พอมีข่าวว่ามีการสวมสิทธิ์กลับมีคนฝากบัตร ดังกล่าวมาให้แม่ จึงอยากให้มีการตรวจสอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากแม่ เสียสิทธิ์ควรได้ไปนานเกือบ 2 ปี และอยากทราบว่าใครเป็นคนนำบัตรไปเก็บไว้ และอยากตรวจสอบว่ามีการนำเงินของแม่ไปใช้สิทธิ์แทน หรือไม่ ซึ่งเงินจำนวนนี้มีความหมายกับผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก หลังจากได้มาตนได้นำไปซื้อนม ข้าวปลาอาหารมาหุงหาให้ทั้งพ่อ และแม่ ที่อายุแก่มากแล้ว
ผู้สื่อข่าวสอบถามกับญาติของนางศรี นามสมมุติ อายุ 58 ปี ชาวบ้านแม่ตูบ ทราบว่านางหน่อแป๊ะ เคยลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไปแล้วแต่ไม่ได้บัตรเช่นกัน อยู่ๆ มีคนนำบัตรมาฝากคืน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ร่วมแสดงความคิดเห็น