เปิดใจนักศึกษาสาวไม่ป่วยโควิด-19 แต่ทางเจ้าหน้าที่โทรแจ้งว่าติดเชื้อ และนำตัวไปรักษาอาการร่วมกับผู้ป่วยโควิดถึง 2 วัน ทำให้ต้องกลายเป็นผู้เสี่ยงสูง และถูกสังคมประนาม

นางสาวธัญพร อายุ 22 ปี สาวมหาวิทยาลัย ชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ขณะที่เธอกักตัวอยู่ที่บ้านพักในจังหวัดลำปาง เธอเล่าว่าเธอเป็นชาวจังหวัดลำปางมาเรียนหนังสือที่จังหวัดเชียงใหม่ และเมื่อวันที่ 1-6 เมษายน 64 นั้น เธอได้เดินจากสนามบินเชียงใหม่ไปเที่ยวจังหวัดขอนแก่น เมื่อกลับมาวันที่ 7 เมษายน เธอก็ได้นั่งเครื่องบินไปกรุงเทพมหานคร ไปเช้าเย็นกลับ และวันที่ 7 เมษายน เธอมีอาการปวดศรีษะ ปัสสาวะขัดๆ ซึ่งเธอได้ปรึกษาแพทย์ออนไลน์บอกว่าเธอเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่เธอก็ไม่มั่นใจเพราะสถานที่ๆ เธอไปหลายแห่งทั้งกรุงเทพ ขอนแก่น นั้น เป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงดังนั้นเมื่อวันที่ 8 เมษายน เธอจึงได้ไปขอรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงแห่งหนึ่ง ในเชียงใหม่ แต่เธอได้คิววันที่ 9 เมษายน เมื่อตรวจหาเชื้อเสร็จเธอจึงได้เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดลำปางทันที

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 เมษายน เวลา 10.30 น. ทางเจ้าหน้าที่เชียงใหม่ ได้โทรเข้ามายังมือถือเธอสอบถามชื่อ นามสกุลเธอ และสอบสวนไทม์ไลน์ของเธอก่อนจะแจ้งเธอว่าเธอติดโควิด-19 เธอทำใจไม่ได้ และถามว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนเธอจึงตอบกลับไปว่าอยู่ที่บ้านพักจังหวัดลำปาง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้บอกว่าจะประสานทางโรงพยาบาลศูนย์ลำปางมารับตัวเธอไปรักษาที่โรงพยาบาลลำปาง โดยทางเจ้าหน้าที่นำรถพยาบาลมารับตัวเธอในเวลา 14.00 น. ซึ่งเธอก็พยายามเปิดเวปไซต์ของโรงพยาบาลในเชียงใหม่ เช็คข้อมูลรายชื่อผู้ติดเชื้อเพื่อให้มั่นใจว่าเธอติดเชื้อจริงหรือไม่แต่ไม่สามารถเข้าเวปไซค์ได้กระทั่งถูกนำตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลลำปาง พร้อมกันผู้ป่วยโควิด-19 รายอื่นๆ หลังจากนั้นเข้าใจว่าเธอเป็นเพราะเข้าใจว่าทางเจ้าหน้าที่ มีเอกสารอยู่แล้ว และไม่ได้เช็คข้อมูลอีกเลยคิดว่าตัวเองคงติดเชื้อโควิดจริงๆจึงไม่ได้เช็คเวปไซต์อีก เธอจึงนอนโรงพยาบาลไปสองคืนต่อมาวันที่วันที่ 12 เมษายน เวลาประมาณ 22.00น.ได้มีพยาบาลโทรเข้ามาหาแล้วสอบถามเธอว่าน้องมีเอกสารอะไรยืนยัน ไมว่าเราติดเชื้อเธอก็ตอบไปว่าไม่มี พยาบาลตอบกลับมาว่าพี่ตรวจประวัติแล้วไม่พบในชาท เธอจึงแจ้งพยาบาลๆ จึงได้ย้ายเธอตอนเวลา 24.00 น.
มาพักอีกห้องหนึ่ง ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเธอติดเชื้อ หรือไม่ เธอจึงได้โทรไปหา คณะที่เธอเรียน เพื่อขอความช่วยเหลือ และประสานงานตรวจดูในเวปไซต์ ไม่พบชื่อเธอว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อต่อมาเช้าวันที่ 13 เมษายน ทางโรงพยาบาลลำปาง จึงได้นำตัวเธอไปตรวจหาเชื้ออีกครั้ง พบว่าผลเป็นลบ ทำให้เธอต้องออกจากโรงพยาบาลมากักตัวที่บ้านต่อ ซึ่งเธอรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เนื่องจากเธอไม่ได้เป็นผู้ป่วยติดเชื้อแต่กลับแจ้งว่าเธอติดเชื้อ ซึ่งที่ผ่านมาเธอจึงไปแจ้งในกลุ่มมหาวิทยาลัย กลุ่มเพื่อนแ ละทุกที่ๆ เธอไปทำให้เธอโดนบลูลี่โดนด่า จนเสียหายส่งผลกระทบเป็นวงกว้างนอกจากนี้ยังทำให้เธอจากคนที่ปลอดเชื้อกลายเป็นเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต้องกักตัว โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้เธอกล่าวว่า ยังไม่มีหน่วยงานไหนไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องนี้ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเช่นนี้ฝากคำถามไว้
1. ตรวจผิดไปแล้วกี่ราย ?
2. สสจ. จะตรวจสอบใหม่ได้ทั้งหมดได้อย่างไร ?
3. จะเยียวยายังไงสำหรับการที่เอาคนปลอดเชื้อไปรวมกับผู้ติดเชื้อ กลายเป็นความเสี่ยงสูง ?
4. มีคนติดจริงๆ แต่แจ้งผลว่าไม่ติดไหม ?
ถ้ามีแสดงว่าคนเหล่านี้ยังใช้ชีวิตปกติโดยไม่รู้ตัว ถ้าเกิด cluster อีกความผิดใคร
เข้าใจนะคะ คนตรวจเยอะหลักหลายพัน แต่เรื่องแบบนี้มันไม่ควรพลาดไหมคะ คือไม่มีการrecheckก่อนจะทำการแจ้งผู้เข้ารับการตรวจเหรอคะ

ขอโทษที่ทำให้ทุกคนตกใจมากๆ ค่ะ ตัวเราเอง ตกใจกว่า ตอนรู้ว่าไม่ติดเชื้อ แต่ตอนแรกที่โทรมาบอกว่าติดโควิด เรารับผิดชอบต่อสังคม เปิดเผย ทล.ทุกอย่าง กลัวว่าคนที่ใกล้ชิด/ไปสถานที่เดียวกันจะติด ก็อยากให้ self-monitoring กันไป เข้าใจค่ะว่าทุกคนแพนิค และก็ขอบคุณมากๆ จากใจจริงค่ะสำหรับคนที่เข้าใจเราตอนเปิด ทล. ขอบคุณจริงๆๆ ค่ะ แต่ยังไงก็ตาม ในสถานการ์ณแบบนี้ ทุกคนก็ต้องดูแลตัวเองกันต่อไปค่ะ ขอบคุณทุกกำลังใจค้า
ปล.รูปเอกสารได้รับอนุญาตให้เผยแพร่แล้วค่ะ
เราเสียหายทุกทาง ยังไงช่วยเรารีหน่อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ

ฟังคลิปเสียงผู้ติดเชื้อคุยกับมารดา : https://www.facebook.com/100002272582073/posts/4023448534407526/?d=n

อ่านข่าวก่อนหน้า : สาวช็อค รพ.แจ้งผลตรวจผิดพลาด จนต้องไปอยู่ใน รพ.ถึง 3 วันกับผู้ติดเชื้อ สสจ.รับเป็นไปตามโพสต์ เตรียมแถลงเย็นนี้ https://www.chiangmainews.co.th/page/page/archives/1637172/

นักข่าวกรรณิกา

ร่วมแสดงความคิดเห็น