รัฐมนตรีฯ-ปลัดกระทรวง อว. ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยม รพ.สนาม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมชื่นชม แม่โจ้ เป็น รพ.สนามสังกัด อว. เป็นกองหนุนช่วยแก้ไขปัญหาในยามบ้านเมืองคับขัน

วันพุธที่ 21 เมษายน 2564 ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงฯ และคณะ เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยมี นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์ยุทธศาสตร์ จันทร์ทิพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยแม่โจ้ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดี พร้อมคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (โซนบี) มหาวิทยาลัยแม่โจ้

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการตรวจพบจำนวนผู้สัมผัสเชื้อเพิ่มขึ้นในเกณฑ์ค่อนข้างสูง ทำให้โรงพยาบาลหลัก และโรงพยาบาลสนาม ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้สัมผัสเชื้อที่จะต้องเข้ารับการรักษา การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จึงเป็นการสนับสนุนการแก้ไขวิกฤติโรคระบาดตามการร้องขอการสนับสนุนของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และสนองนโยบายกระทรวง อว. ที่ให้มหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาคสนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยทางโรงพยาบาลสันทราย อำเภอสันทราย และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จะดูแลมาตรฐานความปลอดภัย กำกับมาตรการทางสาธารณสุข และการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันโรคและปกป้องบุคลากร นักศึกษาของมหาวิทยาลัยอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ได้มีการแถลงข่าวเกี่ยวกับการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในสังกัดกระทรวง อว. โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.กระทรวง อว. ได้ให้นโยบายภาพรวมที่ทางกระทรวง อว.เร่งดำเนินการให้สอดคล้องกับแนวทางของรัฐในการแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์อย่างเร่งด่วน พร้อมทั้ง ทางกระทรวงจะให้การสนับสนุนด้านการวิจัยและเทคโนโลยีทาง อว.ดำเนินการ พร้อมทั้งแนวทางเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. ได้ร่วมแถลงสถานการณ์โรงพยาบาลสนามในสังกัด อว.ทั่วประเทศ รวมถึงเครือข่ายความร่วมมือ อีกด้วย

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการ กล่าวเพิ่มเติมว่า “มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นโรงพยาบาลสนามในสังกัด กระทรวง อว. ถึงแม้แม่โจ้ไม่ได้มีคณะแพทยศาสตร์ แต่สามารถทำงานร่วมมือประสานกับแพทย์สาธารณาสุข โรงพยาบาลสันทราย ที่ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี พี่น้องชาวเชียงใหม่ควรจะดีใจ ที่มีมหาวิทยาลัยแม่โจ้อยู่ในพื้นที่ เพราะไม่เพียงทำหน้าที่แค่การสอน หรืองานวิจัย หากในยามคับขัน บ้านเมืองมีปัญหา ก็สามารถ ช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้ เพราะตอนที่เชียงใหม่เกิดวิกฤตหนัก ในวันที่ต้องการ รพ.สนามเพิ่ม ซึ่งหาได้ไม่ง่าย ในยามนั้นเหมือนกองทัพกำลังจะแพ้ แต่มหาวิทยาลัยแม่โจ้เหมือนเป็นกองหนุนที่เหนือความความคาดหมาย ยินดีเปิด รพ.สนามได้ในเวลา 48 ชม. ช่วยแก้ไขสถานการณ์วิกฤตเชียงใหม่ให้ดีขึ้น”

ร่วมแสดงความคิดเห็น