เจ้าหน้าที่คณะทำงานตรวจติดตามการดำเนินงานโครงการ ตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดลำปาง ลงพื้นที่เยี่ยมพี่น้องเกษตรกรในเขตท้องที่ ต.วังแก้ว อ.วังเหนือ ร่วมติดตามผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้เกิดความยั่งยืน ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ริมวัง
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายโกศล ชุมพลวงศ์ รองประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำปาง ผศ.วัลลภ พงษ์ยืน อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาลำปาง และตัวแทนคณะเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่ชุมชนบ้านห้วยป้าย หมู่ที่ 6 ตำบลวังแก้ว อำเภอวังเหนือ ร่วมปฏิบัติงานตามแผนเชิงรุกออกเยี่ยมเยือนชุมชน พร้อมพบปะกับตัวแทนพี่น้องเกษตรกร “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ริมวัง” เพื่อติดตามดูผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานโครงการตามนโยบายสำคัญของรัฐ ด้านการส่งเสริมพัฒนาอาชีพการเกษตรและต่อยอดสู่ความยั่งยืน ของกลุ่มพี่น้องเกษตรกรบ้านห้วยป้าย ภายหลังจากที่ทางกลุ่มได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากงบพัฒนาจังหวัด ประจำปี พ.ศ. 2564 จำนวนกว่า 729,000 บาท มาใช้ในการดำเนินงานพัฒนากระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มปริมาณผลิตผลให้มีมากเพียงพอต่อความต้องการของตลาด
โดยการดำเนินงานดังกล่าว ทางกลุ่มเกษตรกรได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากทางจังหวัด ในเรื่องของการเสริมประสิทธิภาพด้านการผลิตเพื่อการพัฒนาอาชีพ เป็นครุภัณฑ์สิ่งปลูกสร้างโรงเรือนอัจฉริยะ ภายใต้โครงการ “ส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรปลอดภัยได้มาตรฐานแบบครบวงจร” กิจกรรม : ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์เพื่อพัฒนาอาชีพแก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน ซึ่งทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ริมวัง ได้ทำการจัดสร้างอาคารโรงเรือนเกษตรสำหรับปลูกพืช ระบบ Smart Farm ขนาดความกว้าง 6 เมตร ยาว 25 เมตร จำนวน 2 โรงเรือน
ทั้งนี้ ด้วยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ริมวัง เป็นกลุ่มเกษตรกรที่มีเป้าหมายในการผลิตพืชผักเพื่อรักษาสุขภาพทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยที่ผ่านมาผลผลิตของกลุ่มได้รับการตอบรับที่ดีมียอดสั่งซื้อจากการตลาดเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ผลผลิตกลับมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากต้องประสบปัญหากับภัยธรรมชาติ ดังนั้นกลุ่มเกษตรกรฯ จึงมีแนวคิดในการที่จะจัดสร้างโรงเรือน และนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาประยุกต์ใช้ร่วมกันเพื่อจะขยายกำลังการผลิตให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยนายณัฐวุฒิ แก้วอ่อน ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ริมวัง ได้กล่าวว่า สำหรับโรงเรือนปลูกพืชที่จัดสร้างขึ้นนี้ จะมีการนำเทคโนโลยีระบบ Smart Farm เข้ามาใช้ เพื่อจะได้ช่วยพัฒนาและยกระดับผลผลิตของกลุ่ม ให้เกษตรกรสามารถผลิตพืชผลทางเกษตรได้ตลอดทั้งปี เพราะที่ผ่านมาทางกลุ่มจะมีผลผลิตออกสู่ท้องตลาดเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ส่วนฤดูฝนและฤดูร้อนมีปริมาณผลผลิตน้อย เนื่องจากปัญหาภัยธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง วาตภัย และรวมถึงภัยอื่นๆ
โดยผลผลิตทางการเกษตร ที่ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ริมวัง สามารถผลิตได้ก็จะมีอยู่ด้วยกันหลากหลายชนิดทั้งพืชผักและผลไม้ เช่น ผักตระกูลสลัด ผักเคลสายพันธุ์ต่างๆ มะเขือเทศเชอรี่ มะม่วง มะละกอ กล้วยหอม มัลเบอรี่ เคฟคูสเบอรี่ สตรอเบอรี่ และเสาวรส เป็นต้น ซึ่งการได้รับการสนับสนุนจัดสร้างโรงเรือนอัจฉริยะระบบ Smart Farm ครั้งนี้ จึงคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเกษตรกรอย่างมาก ทั้งในด้านการขยายกำลังการผลิตที่จะช่วยให้เกษตรกรมีปริมาณผลผลิตออกสู่ท้องตลาดได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยจะส่งผลให้เกษตรกรสมาชิกกลุ่มที่มีอยู่ด้วยกันกว่า 16 ครัวเรือน มีรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท
ร่วมแสดงความคิดเห็น