การจับกุมยาเสพติด ตามแนวชายแดน ในพื้นที่ภาคเหนือ

วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 142 ณ ศูนย์เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้.-
ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้มีนโยบายให้มีการบูรณาการงานด้านการข่าวเพื่อความมั่นคงของพลเรือน ตำรวจ ทหาร และทุกภาคส่วน ในการดำเนินการ สกัดกั้น ปราบปราม และจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง ตั้งแต่พื้นที่แนวชายแดน จนถึงพื้นที่ตอนในของประเทศ นั้น มีการจับกุมที่สำคัญ ดังนี้

เหตุการณ์ที่ 1 เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทหาร กองบังคับการควบคุม ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือที่ 3 ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า จะมีการส่งมอบยาเสพติด(ยาบ้า)กันที่ ถนนในซอยข้างโรงงานดอยคำ หมู่บ้านป่าห้า ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย จึงจัดกำลังพลปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรแม่จัน ทำการซุ่มเฝ้าพื้นที่เป้าหมาย ต่อมาวันเดียวกันเวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่สามารถร่วมกันจับกุมตัวชายไทย 2 คน ซึ่งร่วมกันเอายาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 100,000 เม็ด ที่บรรจุถุงพลาสติกมาวางไว้ในกระโปรงท้ายรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว หมายเลขทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่ข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดยาเสพติดและรถของกลางดังกล่าวพร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เหตุการณ์ที่ 2 ภายหลังจาก กองกำลังผาเมือง ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ในช่วงกลางเดือน กรกฎาคม 2564 จะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศไทย โดยใช้การเดินเท้าในพื้นที่ป่าเขาสูงชันยากต่อการเข้าถึงในเขตพื้นที่ บ้านขอบด้ง ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนและจัดกำลังจาก กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหาร ม้าที่ 5 เข้าปฏิบัติการลาดตระเวนไปในจุดที่คาดว่า กลุ่มผู้ลักลอบขนยาเสพติดจะผ่านมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.50 น.ของวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบชาย 2 คน สะพายเป้อยู่ที่หลังพากันเดินมาตามแนวป่าบ้านขอบด้ง ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญานให้หยุดเดินเพื่อทำการตรวจค้น ปรากฏว่าเมื่อกลุ่มคนดังกล่าวเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร จึงพากันทิ้งเป้ที่แบกมาแล้วอาศัยความชำนาญภูมิประเทศวิ่งหลบหนีไปได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจจุดที่เกิดเหตุพบ กระสอบปุ๋ยดัดแปลงเป็นเป้ จำนวน 2 กระสอบ ภายในกระสอบบรรจุยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 200,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดยาเสพติดของกลางดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

และอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นบริเวณใกล้เคียงกับข้างต้น ในห้วงเวลาดึกของวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ทหารได้ตรวจพบ กลุ่มคนประมาณ 6 – 7 คน สะพายเป้อยู่ที่หลังพากันเดินมาตามแนวป่า เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญานให้หยุดเดินเพื่อทำการตรวจค้น ปรากฏว่าเมื่อกลุ่มคนดังกล่าวเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร จึงพากันทิ้งเป้ที่แบกมาแล้วอาศัยความชำนาญภูมิประเทศวิ่งหลบหนีไปได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจจุดที่เกิดเหตุพบ กระสอบปุ๋ยดัดแปลงเป็นเป้ จำนวน 6 กระสอบ ภายในกระสอบบรรจุยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 760,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดยาเสพติดของกลางดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เหตุการณ์ที่ 3 ภายหลังจาก กองกำลังผาเมือง ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ในช่วงกลางเดือน กรกฎาคม 2564 จะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศไทย โดยใช้การเดินเท้าในพื้นที่ป่าเขาตามช่องทางธรรมชาติในเขตพื้นที่ บ้านหนองเต่า ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนและจัดกำลังจาก กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 เข้าปฏิบัติการลาดตระเวนไปในจุดที่คาดว่า กลุ่มผู้ลักลอบขนยาเสพติดจะผ่านมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนมาใกล้ถึงบริเวณสวนลิ้นจี่ได้เห็นกลุ่มบุคคลประมาณ 20 คน บางคนมีอาวุธปืนประจำกาย กำลังเฝ้าสิ่งของบางอย่างอยู่ เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังในจุดปลอดภัยแล้วสั่งให้กลุ่มบุคคลดังกล่าววางอาวุธเพื่อทำการตรวจค้น ปรากฏว่าเมื่อกลุ่มคนดังกล่าวเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร จึงพากันวิ่งหนีโดยอาศัยความชำนาญภูมิประเทศสามารถหลบหนีไปได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจจุดที่เกิดเหตุและพื้นที่โดยรอบ พบ เป้สีเขียว จำนวน 33 ใบ ภายในเป้บรรจุยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 3,730,000 เม็ด พร้อมกับพบ ระเบิดขว้าง จำนวน 1 ลูก และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดของกลางดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป