นักวิทย์อังกฤษเตือน! ในอนาคตอาจเกิด “เชื้อโควิดรุ่นใหม่” ทำคนตายได้ 1 ใน 3

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 64 เว็บไซต์ Dailymail รายงานว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (SAGE) ของรัฐบาลอังกฤษ ตีพิมพ์เอกสารที่เผยแพร่โดย Scientific Advisory Group for Emergencies ( SAGE )  เตือนเชื้อไวรัสโควิด-19 รูปแบบใหม่ ที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต หวั่นจะทำให้มีผู้เสียชีวิตในอัตราสูงเหมือนกับโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ MERS ซึ่งมีอัตราเสียชีวิตสูงถึง 35% ของผู้ติดเชื้อ หรือเสียชีวิต 1 ราย ต่อผู้ติดเชื้อ 3 ราย

ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หรืออีกไม่นานข้างหน้าว่า อาจเป็นโควิดกลายพันธุ์ระดับซุปเปอร์  อาจดื้อต่อวัคซีนโควิด หากเชื้อซุปเปอร์โควิดกลายพันธุ์นี้ เป็นการรวมเชื้อโควิดกลายพันธุ์ที่พบอยู่ในโลกขณะนี้ ได้แก่ โควิดสายพันธุ์เบตา,สายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) หรือเชื้อโควิดเดลตา (อินเดีย)

ซึ่งการรวมกันของเชื้อโควิดกลายพันธุ์นี้ อาจนำไปสู่การเกิดเชื้อที่มีความแข็งแรง จนทำให้เกิดอาการป่วยหนักและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น

นักวิทยาศาสตกล่าวว่า วัคซีนสามารถต้านทานเชื้อโควิด-19 ได้ หากไม่เจอกับเชื้อโควิดกลายพันธุ์พิเศษ ซึ่งจะทำให้วัคซีนมีประสิทธิภาพน้อยลงไปมาก พร้อมทั้งยังระบุด้วยว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเชื้อซุปเปอร์โควิดกลายพันธุ์นั้น ‘มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริง’ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อจำนวนผู้เสียชีวิตในสหราชอาณาจักร

ทั้งนี้ SAGE ยังได้เตือนว่าไวรัสสามารถแพร่เชื้อให้กับสัตว์หลายชนิดรวม จึงอาจจำเป็นต้องมีการคัดแยกหรือฉีดวัคซีนสัตว์ในสายพันธุ์อื่นเพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันกลายเป็นแหล่งกักเก็บไวรัส

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น