ขุดแต่งโบราณสถานวัดส้มสุก กรมศิลปากรร่วมกับชุมชนมะลิกา อ.แม่อาย สืบสานรอยอดีตล้านนา

นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ รายงานผลการขุดแต่งทางโบราณคดี ในแหล่งโบราณสถานวัดส้มสุก ต.มะลิกา อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งโบราณสถานขนาดใหญ่ที่สุดในแอ่งที่ราบฝาง พบหลักฐานยืนยัน อิทธิพลวัฒนธรรมสุโขทัยที่แพร่หลายเข้าสู่ดินแดนล้านนาโบราณเมื่อกว่า 600 ปีมาแล้ว ทั้งนี้โครงการขุดแต่งโบราณสถานวัดส้มสุก ปีงบประมาณ 2564 ดำเนินการต่อจากระยะแรกเมื่อปี 2558 ปัจจุบันได้สำรวจขุดค้นโบราณสถาน เจดีย์ประธานทรงระฆังมีช้างล้อมรอบฐาน วิหารขนาดใหญ่ พบร่องรอยการปฏิสังขรณ์ 3 ครั้ง ซุ้มประตูโขงและอาคารใหญ่น้อยอีกประมาณ 10 หลัง พบโบราณวัตถุสำคัญ ได้แก่ พระพิมพ์เนื้อชินมีจารึกคาถา “จะภะกะสะ”คาถาที่ปรากฏในคัมภีร์วิชรสารัตนสังคหะรจนาโดยพระรัตนปัญญาเถระภิกษุในนิกายวัดสวนดอก เมื่อ พ.ศ. 2078

นอกจากนี้ ยังพบจารึกอักษรฝักขามบนแผ่นอิฐหน้าวัว และอิฐรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีทั้งที่จารเป็นอักษร 1-2 ตัว และเป็นข้อความ หรือภาพลายเส้นลวดลายต่างๆ กว่า 200 ก้อน อาจกล่าวได้ว่าวัดส้มสุกเป็นวัดที่มีจารึกมากที่สุดในประเทศไทย เบื้องต้นนักโบราณคดีได้จำแนกจารึกบนก้อนอิฐที่พบออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เขียนเป็นข้อความ ส่วนใหญ่ระบุชื่อบุคคลที่อาจหมายถึงผู้ปั้นหรือผู้บริจาคอิฐก้อนนั้นๆ และกลุ่มที่เขียนเป็นตัวอักษร 1 – 2 ตัว ส่วนใหญ่พบบนอิฐหน้าวัว ที่ประกอบกันเป็นเสาอาคาร

“มีข้อสังเกตว่าในเสาต้นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเป็นการจารึกตัวอักษรตัวเดียวกัน เบื้องต้นนักโบราณคดีสันนิษฐานว่า อาจเกี่ยวข้องกับการให้รหัสสำหรับการก่อสร้าง หรือเทคนิคการผลิต หรืออาจหมายถึงกลุ่มบุคคล กลุ่มข้าวัด หัววัด หรือศรัทธาวัดแต่ละหมู่บ้าน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันซ่อมสร้างวัดโบราณแห่งนี้ขึ้น”

อย่างไรก็ตาม จารึกทั้งหมดยังอยู่ระหว่างการศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาโบราณ จะมีสรุปรายงานผลการศึกษาอย่างเป็นทางการต่อไป ซึ่่งการขุดแต่งโบราณสถานวัดส้มสุกในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากรและชุมชนใน ต.มะลิกา ที่ต้องการอนุรักษ์และพัฒนามรดกทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าของท้องถิ่น

ในปีงบประมาณ 2564 นั้น กรมศิลปากรได้อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมอีก 1.1 ล้านบาท เพื่อขุดค้นและดำเนินการทางโบราณคดีให้ครบถ้วน ขยายผลการศึกษาเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดีให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยคาดหวังว่าจะนำไปสู่การต่อยอดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ชาว อ.แม่อาย ได้ในอนาคตด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนแอ่งที่ราบฝาง ซึ่งเป็นชุมชนโบราณที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งในอาณาจักรล้านนาเมื่อครั้งอดีต

ร่วมแสดงความคิดเห็น