กลุ่มควาญช้าง ปางช้างแม่สา เดือดร้อนหนัก! ประท้วงไม่ได้เงิน 3 เดือนแล้ว วอนผู้บริหารเร่งแก้ไขปัญหา

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 22 ก.ย.นี้ ที่บริเวณหน้าปางช้างแม่สา ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้มีกลุ่มพนักงานและควาญช้างร่วม 100 คน พร้อมช้าง มายืนถือป้ายประท้วง ไม่ได้รับเงินเดือนมานานร่วม 3 เดือนแล้ว โดยป้ายแต่ละอันมีข้อความเรียกร้องเงินที่ค้างจ่าย ไม่มีจะกินกันแล้ว และขอพบผู้บริหารปางช้างแม่สา มาเจรจา เพื่อให้ความชัดเจนว่า จะมีการจ่ายเงินให้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามถึงความเดือดร้อน โดย นางรัตนา ศรีหมอก แกนนำพนักงานและควาญช้างที่ออกมาเรียกร้องในครั้งนี้ ได้เผยว่าทั้งควาญช้างและพนักงาน ต่างออกมาเรียกร้องเพื่อขอให้ทางผู้บริหารปางช้างแม่สา จ่ายเงินเดือนมาให้ เพราะ 3 เดือนแล้วยังไม่ได้รับ ทุกคนลำบากมาก ร้านค้าต่างๆในหมู่บ้านก็ไม่ให้เชื่อแล้ว ต้องเงินสดอย่างเดียว แม้กระทั่งจะไปเติมน้ำมัน ก็ไม่มีเงินไปไหนมาไหน ก็ต้องเดินกันเพราะไม่มีเงินกันจริงๆ เพราะมันนานเกินไป 3 เดือนแล้ว พนักงานและควาญช้างก็ไม่อยากจะทำงานกันต่อแล้ว แม้กระทั่งจะไปตัดหญ้าเลี้ยงช้าง เรี่ยวแรงหายไปหมด แต่ก็สงสารช้างต้องกินหญ้า บางคนก็ยังฝืนไปตัดหญ้าให้ช้าง แต่มาถึงตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ก็ขอให้ทางผู้บริหารมาช่วยเราด้วย หาเงินมาจ่ายเงินเดือนให้พวกเราด้วย ขอให้ผู้บริหารก็คือคุณอัญชลี กัลมาพิจิตร ประธานกรรมการบริหารปางช้างแม่สา มาช่วยชี้แจงและช่วยเหลือคนงานและควาญช้างด้วย เพราะเดือดร้อนจริงๆ 3 เดือนแล้ว และคนงานที่จะต้องไปตัดหญ้าเลี้ยงช้าง ก็ต้องใช้จักรยานไปตัดหญ้าให้ช้างมันไกล และก็ไม่มีเงินแม้จะเติมน้ำมัน ถือว่าวิกฤตมากแล้ว


ต่อมา นางอัญชลี กัลมาพิจิตร กรรมการผู้บริหารปางช้างแม่สา ได้เดินทางออกมาพบกับพนักงานและพยายามชี้แจงถึงความเดือดร้อน ตั้งแต่สถานการณ์โควิดแพร่ระบาด รายได้จากการท่องเที่ยวเป็นศูนย์ แม้จะเปิดให้เข้าชมฟรี ก็มีผู้มาเยี่ยมเยือนบางวันไม่ถึง 10 คน ทางผู้บริหารได้พยายามอย่างเต็มที่ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด ร่วม 3 ปี ทางบริษัทปางช้างแม่สา ต้องใช้เงินที่มีอยู่และกู้หนี้หมดแล้วกว่า 60 ล้านบาท จึงส่งผลกระทบอย่างรุนแรงขึ้นมา

นางอัญชลี ได้เปิดเผยปัญหาที่พยายามแก้ไข ว่าทางบริษัทปางช้างแม่สา ยังมีเงินที่อยู่ในธนาคารอีกจำนวน 18 ล้านบาท แต่ไม่สามารถเบิกออกมาใช้ได้เพราะจะต้องมีการเซ็นยินยอมในคณะกรรมการบริหาร แต่มาเกิดปัญหาเกี่ยวกับการจัดการมรดก ที่ทาง นายชูชาติ กัลมาพิจิตร บิดาของตน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งปางช้างแม่สา และล่วงลับไปแล้ว แต่ยังมีการฟ้องร้องในเรื่องการจัดการแบ่งมรดกไม่ลงตัว ทำให้สภาพการเงินบริษัทเกิดปัญหาซ้ำซ้อนกับปัญหาโควิด รายได้ไม่เข้ามาเลย และต้องจ่ายออกไปจนเงินสำรองในบริษัทหมด แม้จะกู้หนึ้มาประคองไว้ ในเรื่องนี้จึงขอเวลาพนักงานและควาญช้าง อีก 7 วัน เพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็อยากจะให้ผู้ที่ร่วมเป็นคณะกรรมการบริหาร เข้ามาร่วมแก้ปัญหาในเรื่องนี้ให้ผ่านพ้นไปก่อน ตนเองก็ขอวิงวอนให้ผู้ร่วมบริหารปางช้างแม่สา ซึ่งถือหุ้นร่วมกันมาช่วยแก้ปัญหาด้วย เพื่อจะเก็บรักษาปางช้างแม่สา ปางช้างในตำนานของเชียงใหม่ และประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้้งนี้ เพราะใกล้จะถึงโครงการชาร์มมิ่งเชียงใหม่ ที่จะเปิดในเร็ววันนี้ ขอให้มีปางชางแม่สาให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วย

จากนั้น นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ได้พยายามพูดคุยกับทางพนักงานและควาญช้าง เพื่อสร้างความมั่นใจ และขอให้เห็นแก่ช้างที่เลี้ยงไว้ 70 เชือก และปางช้างที่อยู่มานานกว่า 45 ปี ให้ช่วยกันรักษาไว้ และเชื่อว่าปัญหาต่างๆจะสามารถคลี่คลายลงได้ในเร็ววันนี้ ซึ่งทางพนักงานและควาญช้างได้ฟังคำชี้แจงแล้วก็มีความพอใจในระดับหนึ่ง ก่อนแยกย้ายกันกลับไปทำงานดูแลช้าง เมื่อเวลา 18.30 น.วันเดียวกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น