1 ต.ค.นี้ รอยืนยันสนามสอบท้องถิ่น เตือนระวังขบวนการแอบอ้างช่วยบรรจุ หลอกลวง

รายงานจากคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น 2564(กสถ.) แจ้งว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลให้การดำเนินการจัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2564 ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) และภาคความรู้ความสามารถเฉพาะสำหรับตำแหน่ง (ภาค ข) ตามที่มีประกาศคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น ต้องเลื่อนออกไปจากเดิม 4 ก.ค. 2564 และ 8 ส.ค. 2564 ซึ่งเป็นการเลื่อนถึง 2 ครั้ง

ล่าสุด กรณีที่มีการนำเสนอข้อมูล การสอบท้องถิ่น ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พย.นี้นั้น เป็นการดำเนินการในขั้นตอน ติดตามตรวจสอบความพร้อมของสนามสอบทุกแห่ง หากจัดเตรียมสนามสอบที่จะมีขึ้นในวันดังกล่าว หากสนามสอบใดมีข้ออุปสรรค ให้ดำเนินการแก้ไขพร้อมประสานจัดหาสถานที่สอบแห่งใหม่ทดแทน และแจ้งภายใน 1 ตค.นี้ ยังต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งประกาศล่าสุดยังยึดถือแนวทาง 19 ก.ค. 2564 รายละเอียดการจัดการต้องรอสรุป 1 ตค.นี้ก่อน เพราะมีหลายปัจจัยประกอบในการพิจารณาดำเนินการจัดสอบในช่วงโควิด สำหรับสนามสอบ ในภาคเหนือ เขต 1 จ.เชียงใหม่ สนามสอบในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, เขต 2 พิษณุโลกสนามสอบมหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลย์สงคราม เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม หากพบการแอบอ้าง หลอกลวง รับผลประโยชน์จากการสอบข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ใน 4,584 อัตรา ปีนี้มีผู้สมัครสอบกว่า 498,700 ราย ในจำนวน 4,584 อัตรา อาทิ ภาคเหนือ เขต 1 จำนวน 47,810 คน ภาคเหนือ เขต 2 จำนวน 59,957 คน ทุกๆสนามสอบ ที่มีการมอบหมายแต่ละมหาวิทยาลัย เป็นผู้จัดการสอบ มีมาตรการป้องกันการรั่วของข้อสอบเป็นอย่างดีมีการป้องกัน การเรียกรับผลประโยชน์

“ถ้าพบเห็นหรือทราบพฤติการณ์การแอบอ้าง ว่าจะช่วยให้ผู้สมัครสอบเป็นผู้สอบได้ โดยใช้วิธีการต่างๆ ขอให้แจ้งศูนย์ดำรงธรรม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 0-2241-9014 หรือ 02-241-9000 ต่อ 1264รวมถึงศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ 1111 เว็บไซด์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด และถ้าพบข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จะถูกดำเนินการทางวินัย มีโทษถึงขั้นถูกไล่ออกจากราชการ รวมทั้งดำเนินการทางกฎหมายไม่ละเว้น เพื่อให้ได้คนดีมีความรู้ อย่างแท้จริงมาปฏิบัติงาน ย้ำเตือนว่าการวิ่งเต้นหรือการแลกรับผลประโยชน์จากการสอบนั้น ถือเป็นการทุจริตอย่างหนึ่ง หากพบการกระทำความผิด จะทำให้ถูกปรับตก และจะไม่มีสิทธิ์สอบเข้าเป็นข้าราชการหรือพนักงานในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อีก ขณะที่ผู้เรียกรับผลประโยชน์ เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ร่วมแสดงความคิดเห็น