ข่าวปลอม! กฟผ. เขื่อนสิริกิติ์ เปิดให้บุคคลภายนอก เข้าเยี่ยมชมเขื่อนสิริกิติ์ได้แล้ว

วันที่ 16 ต.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ
กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อต่างๆ ประเด็นเรื่อง กฟผ. เขื่อนสิริกิติ์ เปิดให้บุคคลภายนอก เข้าเยี่ยมชมเขื่อนสิริกิติ์ได้แล้ว ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กระทรวงพลังงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีที่มีการโพสต์ข้อมูลระบุว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนสิริกิติ์ เปิดให้บุคคลภายนอก เข้าเยี่ยมชมเขื่อนสิริกิติ์ได้แล้ว ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กระทรวงพลังงาน ได้ตรวจสอบประเด็นดังกล่าวและชี้แจงว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ยังไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมชมเขื่อนสิริกิติ์แต่อย่างใด ทั้งนี้ กฟผ. ขอยืนยันว่ายังคงดำเนินการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ตามมาตรการของจังหวัดอุตรดิตถ์อย่างเข้มงวด จนกว่าจะมีคำสั่งหรือมาตรการเปลี่ยนแปลง

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กระทรวงพลังงาน สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.egat.co.th/home/ หรือโทร. 0 2436 1416

บทสรุปของเรื่องนี้ : การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ยังไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมชมเขื่อนสิริกิติ์แต่อย่างใด ทั้งนี้ กฟผ. ขอยืนยันว่ายังคงดำเนินการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ตามมาตรการของจังหวัดอุตรดิตถ์อย่างเข้มงวด

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น