ปะทะกลางป่ามอดไม้ข้ามชาติ เจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามเจ็บ 1 ยึดไม้ของกลางได้

จากสถานการณ์การบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าชุมชม ป่าชายเลน และพื้นที่ป่าตามที่กฎหมายกำหนดไว้ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่การบุกรุกเพื่อใช้ประโยชน์ จากนายทุนทั้งในและนอกพื้นที่ รวมทั้งการตัดไม้หรือการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ ในช่วงสถานการณ์ติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (covid 19) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบนโยบายในเรื่อง การป้องและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการป้องกันและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ภายใต้การอำนวยการของนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีบัญชาสั่งการให้สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีมีนายทุนข้ามชาติได้ว่าจ้างราษฎรจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้ามาลักลอบการลักลอบตัดไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ (ชิงชัน ประดู่) ในเขตป่าประเทศไทย และชักลากข้ามกลับไปฝั่งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูซาง ท้องที่บ้านสา หมู่ที่ 6 และบ้านหัวนา หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งกล้วย อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ติดแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างหลักพรมแดนที่ 18-20 และระหว่างวันที่ 17-19 และวันที่ 24-26 กันยายน 2564 สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า โดยการนำของนายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม และนายชัยชาญ ศรียงค์ หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) นายสมบูรณ์ พุทธวงศ์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูซาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจพบตอไม้และร่องรอยการแปรรูปไม้(ชิงชัน ประดู่) และอื่นๆ จำนวน 96 จุด ต่อมานายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม และนายชัยชาญ ศรียงค์ หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ)ได้สั่งการให้นายสมบูรณ์ พุทธวงศ์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 เข้าปฏิบัติงาน เพื่อออกเดินลาดตระเวนในพื้นที่ดังกล่าวและจับกุมผู้กระทำผิด


โดยเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 ได้เริ่มออกลาดตระเวน เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ตรวจพบช่องทางธรรมชาติที่ราษฏรสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวใช้เป็นเส้นทางแอบลักลอบเข้ามาทำไม้และนำไม้ออกจากประเทศไทยค่อนข้างใหม่ประมาณ 1 สัปดาห์ เรียกว่าช่องประตู 2 และตามเส้นทางในป่า พบร่องรอยการลักลอบตัดไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ โค่นล้มและแปรรูปไม้คาตอ จำนวนหลายจุดทั้งใหม่และเก่า และในช่วงกลางคืนวันที่ 16 ตุลาคม 2564 คณะเจ้าหน้าที่อยู่จุดเฝ้าระวัง อยู่ห่างจากแนวหลักเขตชายแดนเข้ามาฝั่งประเทศไทยประมาณ 2-3 กิโลเมตร ได้ยินเสียงเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์อยู่ห่างจากจุดเฝ้าระวังค่อนข้างไกล

ต่อมาวันที่ 17 ตุลาคม 2564 คณะเจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนกระจายกำลัง ทำดักซุ่มตามเส้นทางที่คาดว่าจะมีการลักลอบขนไม้ ออกมา ครั้นถึงเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 จำนวน 3 นาย ที่ดักซุ่มทางที่จะออกไปประตู 2 ได้พบกลุ่มชายจำนวน 6 คน ทำการแบกไม้แปรรูป เดินผ่านเจ้าหน้าที่ที่ดักซุ่ม จากการสังเกตพบว่ามีชายคนที่ 3 และคนที่ 6 ในกลุ่มแบกไม้ ถืออาวุธปืนมาด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว เมื่อกลุ่มคนดังกล่าวทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ จึงทิ้งไม้แปรรูปวิ่งหลบหนีไปด้านหน้า และชายคนที่ 3 ได้หันปืนมายิงทางเจ้าหน้าที่แต่ไม่ถูก เจ้าหน้าที่มีกำลังน้อยกว่าจึงเข้าควบคุมชายคนสุดท้ายที่แบกไม้และถืออาวุธปืนมาด้วย ซึ่งพยายามจะใช้อาวุธปืนต่อสู้ จนเกิดการต่อสู้ เจ้าหน้าที่จึงได้ยิงปืนตอบโต้เนื่องจากพื้นที่ที่ค่อนข้างอันตราย อาจมีกองกำลังซุ่มอยู่ และได้แจ้งเจ้าที่หน้าที่ที่ดักซุ่มจากจุดอื่น เข้ามาสมทบและทำการถอนกำลัง เบื้องต้นสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 1 คน เป็นชายจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตรวจยึดไม้ประดู่แปรรูป (ขนาดยาว 200 เซนติเมตร กว้าง 50 เซนติเมตร และหนาประมาณ 5 เซนติเมตร) จำนวน 1 แผ่น/เหลี่ยม ตรวจยึดอุปกรณ์การกระทำผิด อาวุธปืนประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก (เป็นของชายคนที่ 6 จำนวน 1 กระบอก และอีกกระบอกถูกมัดติดกับไม้ประดู่แปรรูป ของชายคนที่ 1) พร้อมเครื่องกระสุน จำนวนหนึ่ง

เหตุเกิดบริเวณป่าท้องที่บ้านสา หมู่ที่ 6 ตำบลทุ่งกล้วย อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ติดแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างหลักพรมแดนที่ 19-20 พิกัด 47 Q 651740 E 2168838 N ในเขตอุทยานแห่งชาติภูซาง

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น