กฟผ.แม่เมาะ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด 1 ราย คาดติดเชื้อภายในครอบครัว

กฟผ.แม่เมาะ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด 1 ราย คาดติดเชื้อภายในครอบครัว แจ้งกลุ่มเสี่ยงกักกันตัวพร้อมดำเนินการควบคุมโรคตามมาตรการสาธารณสุข
วันที่ 18 ตุลาคม 2564 นายจรัญ คำเงิน ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 2 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ ในฐานะผู้รักษาบริเวณ กฟผ.แม่เมาะ และประธานศูนย์จัดการภาวะวิกฤตโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) กฟผ.แม่เมาะ เปิดเผยว่า กฟผ.แม่เมาะ พบผู้ปฏิบัติงานแผนกวัตถุพลอยได้ กองปฏิบัติการระบบลำเลียงเถ้าถ่านหินและยิปซัม ฝ่ายการผลิตโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ปฏิบัติงานที่อาคารลงทะเบียนรถเถ้าลอยหางฮุง จำนวน 1 ราย เข้ารับการตรวจ RT-PCR ในวันที่ 17 ตุลาคม 2564 ผลการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (SARS CoV-2) พบผลเป็นบวก ทั้งนี้ คาดว่าติดเชื้อจากคนในครอบครัว ซึ่งผู้ป่วยยืนยันติดเชื้ออาศัยอยู่ที่ ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง โดยได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลลำปางแล้ว ถือเป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายที่ 8 ของ กฟผ.แม่เมาะ นับตั้งแต่เริ่มการระบาด
เบื้องต้น กฟผ.แม่เมาะ ได้ประสานกับสาธารณสุข อ.แม่เมาะ เพื่อคัดกรองผู้สัมผัสผู้ป่วยและดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคของ จ.ลำปาง โดยเบื้องต้นมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ปฏิบัติงานร่วมกับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ ผู้ปฏิบัติงาน กฟผ.แม่เมาะ 4 คน และพนักงานจ้างเหมา 3 คน ซึ่ง กฟผ.แม่เมาะ ได้แจ้งให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด แยกกักตัวอยู่ที่พักอาศัย และเข้ารับการตรวจหาเชื้อโดยด่วนในวันที่ 18 ตุลาคม 2564 นอกจากนั้นจะดำเนินการฆ่าเชื้อสถานที่ที่ผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันปฏิบัติงานต่อไป อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการผลิตกระแสไฟฟ้าของ กฟผ.แม่เมาะ แต่อย่างใด
กฟผ.แม่เมาะ ยังคงมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ภายในองค์กรอย่างเคร่งครัด ทั้งการดำเนินตามมาตรการ Bubble and Seal การกำหนดนโยบายปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย (Work From Home) การงดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันภายในพื้นที่เหมืองและโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ขอความร่วมมือผู้ปฏิบัติงานหลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยง ชุมชนแออัด เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อโควิด-19 ตลอดจนมีมาตรการให้ผู้ปฏิบัติงานที่เดินทางไปและกลับจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รายงาน Timeline การเดินทาง และตรวจหาเชื้อโดยใช้ Antigen Test Kit (ATK) ก่อนกลับเข้าปฏิบัติงานพร้อมให้เฝ้าระวังตนเองและประเมินตนเอง (Self Monitoring) เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน นับแต่วันที่เดินทางเข้ามายังพื้นที่จังหวัดลำปาง