วันนี้(26 ตุลาคม 2564) ที่ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดลำพูน สำนักงานสภาอาชีพเกษตรกร(สอก.ล)อำเภอลี้ หมู่ 14 ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน นำโดย นายสุกิจ ตุ่นวงศ์ ประธานสภาอาชีพเกษตรกร (สอก.ล) อำเภอลี้ จังหวัดลำพูนพร้อมด้วย เกษตรกรผู้ปลูกลำไย ร่วมกันยื่นหนังสือร้องเรียนถึง นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ในเรื่องของการเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกลำไยฤดูกาลการผลิตปี 2564 โดยมี นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ ปลัดจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน ผู้แทนสำนักงานเกษตรจังหวัดลำพูน สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำพูน สํานักงานพาณิชย์จังหวัดลําพูน เป็นผู้แทนรับมอบหนังสือร้องเรียนจากเกษตรกร
นายสุกิจ ตุ่นวงศ์ ประธานสภาอาชีพเกษตรกร (สอก.ล) อำเภอลี้ เผยว่า ตามที่รัฐบาลได้พิจารณาการเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนจากปัญหาสภาพอากาศและปัญหาของสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ทำให้ประเทศจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าลำไย (ลำไยสด) จากประเทศไทย ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ ขณะที่ปริมาณผลผลิตล้นตลาด รัฐบาลจึงให้ความช่วยเหลือเกษตรกร โดยมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 เห็นชอบการดำเนินงานโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยปี 2563 และค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการาเป็นเงินทั้งสิ้น 3,440,094,726 บาท และเกษตรกรชาวสวนลำไยได้รับการเยียวยาทุกครอบครัวในอัตราไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 25 ไร่ ต่อครอบครัว
ทั้งนี้ เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไยภาคเหนือ 8 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ น่านและแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีพื้นที่ปลูกลำไย จำนวน1,202,400 ไร่ ผลผลิตมากกว่า 1,238,000 ตัน มีเกษตรกรมากกว่า 250,000 ครอบครัวได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสร้ายแรงดังกล่าว ส่งผลให้ราคาลำไยตกต่ำ ขาดแคลนแรงงาน กลไกการตลาดมีปัญหา โดยเฉพาะการส่งอกลำไยไปต่างประเทศ เกษตรกรจึงประสบปัญหาการขาดทุน มีภาระหนี้สิน ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสและไม่มีเงินทุนที่จะเป็นต้นทุนใน ปี 2565 ที่กำลังมาถึงในขณะนี้ จึงต้องขอรับการเยี่ยวยาจากรัฐบาล ไร่ละ 2,000 บาทเหมือนปีที่ผ่านมา ประกอบกับการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 4/2564 ได้มีมติตามข้อ 5.1.1 ในการเตรียมต้นลำไยภายหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต เน้นให้คำแนะนำเกษตรกรใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและจัดทำแนวทางพัฒนาลำไยคุณภาพในปีต่อไป ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงธันวาคม 2564 อย่างไรก็ตามการดำเนินงานของเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ตามมติจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีต้นทุนสนับสนุนให้แผนบริหารจัดการตามมติดังกล่าว ให้ประสบผลสำเร็จในฤดูกาลการผลิตปี 2565 ดังนั้น จึงขอรับเงินเยียวยา ไร่ละ 2,000 บาท เพื่อใช้เป็นต้นทุนการผลิตตามแผนที่คณะกรรมการฯ อนุมัติอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้าน จังหวัดลำพูนจะดำเนินส่งเรื่องของเกษตรกรชาวสวนลำไยไปยังรัฐบาล เพื่อให้ทราบถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนลำไย ในการขอรับเงินเยียวยาของเกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนจากปัญหาสภาพอากาศและปัญหาของสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ในจำนวนไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 25 ไร่ ต่อครอบครัว เพื่อใช้เป็นต้นทุนในในฤดูกาลการผลิตปี 2565 ต่อไป.
ภาพ/ข่าว นายอานนท์ บุญมาตุ้ย ผู้สื่อข่าว ส.ปชส.ลำพูน
บรรณาธิการ : นายประเสริฐ อินทา ประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
ร่วมแสดงความคิดเห็น