รองน้อย ผ่าประเด็นร้อน ล้มมวย ล้มบอล ล้มบาส ลั่น กกท.ไม่ใช่เสือกระดาษ

ทนุเกียรติ จันทร์ชุม” ฝ่าปมประเด็นร้อน “ล้มมวย-ล้มบอล-ล้มบาส” พ.ร.บ.กีฬาอาชีพคุมเข้ม พร้อมประกาศกร้าว “กกท.” ไม่ใช่เสือกระดาษ รองน้อย” ทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงการทำงานของการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ยังคงเดินหน้าจัดการการกระทำผิดในวงการกีฬาอาชีพ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ หลังจากที่ระยะหลังมักมีข่าวของการล้มมวย รวมถึงข่าวการล็อกสกอร์ฟุตบอล และล่าสุดในศึกไทยแลนด์บาสเกตบอลลีก หรือ TBL ที่ได้ลงดาบฟันผู้บริหารสโมสรดัง หลังมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ส่อเกี่ยวข้องกับการล็อกผลการแข่งขัน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบาสเกตบอล กับการพนันในวงการตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมา

ทั้งนี้ “รองน้อย” ทนุเกียรติ จันทร์ชุม ระบุถึงการแก้ปัญหาว่า “จริงๆวงการกีฬาอาชีพไทยเรามีพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 และ พระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 ที่จะใช้ลงโทษผู้กระทำผิดในกีฬาอาชีพมาแล้ว หลายท่านอาจจะมองว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย อาจเป็นแค่เสือกระดาษ แต่จริงๆ ไม่ใช่ เรามีกฎหมายคุ้มครองแล้ว”

“พระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 หรือ พ.ร.บ.มวย 42 มีการใช้มาแล้วอย่างต่อเนื่อง มีหลายคดีที่ไม่ได้เป็นข่าว สุดท้ายศาลเป็นผู้สั่งลงโทษตามกฎหมายหลังจากมีหลักฐานที่ชัดเจน มีหลายกรณีที่กลายเป็นคดีขึ้นมาแล้ว บางเคสหัวหน้าค่ายไม่รู้เรื่อง บางกรณีก็เป็นผู้สั่งการเอง เราพยายามจะสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับคนมวย หรือคนกีฬา ด้วยการทำกีฬาอาชีพให้เป็นกีฬาสีขาวที่สุด”

“เรื่องของฟุตบอลอาชีพ ที่ถามว่า พระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 หรือ พ.ร.บ.กีฬาอาชีพ 56 จะสามารถลงลึกถึงรายละเอียดในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน หรือดักฟังโทรศัพท์หรือไม่นั้น ก็ขึ้นกับพนักงานสอบสวนที่มีอำนาจหน้าที่ในทางกฎหมาย หรือคนในวงการฟุตบอลอาชีพมีหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อที่จะเอาผิดเรื่องการล้มบอล หรือล็อกสกอร์ได้”

รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย “รองน้อย” ทนุเกียรติ จันทร์ชุม ยังเผยอีกด้วยว่า “ส่วนการล้มบาสเกตบอลลีกที่เป็นข่าวล่าสุด ฝ่ายที่ดูแลได้มีการเรียกผู้จัดการทีมที่แข่งขันที่ตกเป็นข่าวมาให้ข้อมูล ถ้ามีหลักฐานแบบเดียวกับกรณีของ ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ ก็สามารถจัดการได้เลย แต่จริงๆ วงการกีฬาอาชีพก็มีเรื่องในลักษณะนี้เยอะมาก แต่สุดท้ายเรื่องไปไม่สุด เพราะไม่มีหลักฐาน หรือพยายามที่จะหาหลักฐาน แต่ก็ไม่มี”.

ร่วมแสดงความคิดเห็น