สะเทือนใจ! แม่วัยใส 17 ปี คลอดลูกสาวในห้องน้ำโรงเรียน พร้อมโยนทิ้งในถุงดำจนเด็กสิ้นใจ

เกิดเหตุสุดสะเทือนใจแม่วัยใส 17 ปี แอบคลอดลูกสาวในห้องน้ำโรงเรียนไม่บอกใครแอบโยนทิ้งในถุงดำจนเด็กตาย สุดท้ายตกเลือดครูนำส่งโรงพยาบาล หมอสงสัยอ้างท้องเสียแต่มีอาการตกเลือดไม่หยุด สุดท้ายเปิดปาก 6 โมงเย็นว่าคลอดเด็กแล้วโยนเด็กทิ้งในถุงดำข้างห้องน้ำตั้งแต่ 9 โมงเช้า ครูในโรงเรียนออกค้นหา พบเด็กอยู่ในถุงดำกับษขยะ ไม่หายใจมดตอมกัดเต็มตัวเป็นที่น่าเวทนา

เหตุเกิตเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. ครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งได้นำเด็กนักเรียนหญิงอายุ 17 ปี นำส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ด้วยอาการท้องเสียและมีเลือดออกทางช่องคลอด หลังจากกินยาที่ได้ซื้อทางอินเตอร์เน็ต แต่นักเรียนหญิงวัย 17 ปี ปกปิดข้อมูลไม่ยอมบอกว่าตัวเองท้องจนคลอดเด็กในห้องน้ำ บอกแต่เพียงว่าตนเองท้องเสียจากการกินยาที่สั่งซื้อมาทางอินเตอร์เน็ต แต่เมื่อแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดพบว่ามีการตั้งครรภ์ และอาการเลือดออกเกิดจาการคลอด จึงได้ส่งต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลน่าน

จนเวลาประมาณ 18.40 น. ทีมแพทย์ได้พูดจาหว่านล้อมจนเด็กสาววัย 17 ยอมรับว่าตนเองท้องจริง ทั้งยังคลอดเด็กที่ห้องน้ำโรงเรียนแล้วโยนเด็กทิ้งไว้ที่ถุงขยะสีดำข้างห้องน้ำ หลังทราบข้อมูลทางแพทย์ได้ประสานไปยังทางโรงเรียนให้ตรวจสอบ จนพบศพเด็กทารกเพศหญิงสมบูรณ์ อยู่ในถุงขยะสีดำที่ข้างห้องน้ำจริง สภาพร่างกายมีมดอยู่เต็มร่างกาย มีคราบเลือดติดอยู่ และมีเศษรกอยู่ข้างศพ ไม่มีสัญญาณชีพแล้ว


แพทย์เวรโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ได้ทำการชันสูตรศพในเบื้องต้น พบว่ามีบาดแผลที่คอ ลักษณะคล้ายแผลทิ่มตำ หรือร่างทารกไปกระแทกของแข็ง หรือสงสัยอาจจะเป็นการฆาตกรรมเด็กแรกคลอด จึงได้แจ้ง พ.ต.ท.สันทิตย์ มหาวงศนันท์ พงส.สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจที่เกิดเหตุและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งศพไปผ่าชันสูตรต่อที่โรงพยาบาลแพร่ เพื่อหาสาเหตุการตาย โดยเฉพาะรอยทิ่มบริเวณตรงคอว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กตายหรือไม่

ด้าน นายแพทย์ ฬุจิศักดิ์ วรเดชวิทยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เล่าให้ฟังว่า หลังจากได้รับแจ้งประสานงานจากทางโรงพยาบาลน่าน ว่านักเรียนรายดังกล่าวแจ้งว่าได้คลอดเด็กออกมาตอนประมาณ 9 โมงเช้า จึงรีบประสานครูให้ตามหาโดยหวังว่าเด็กยังจะมีชีวิตอยู่เพื่อจะได้ส่งให้หมอเด็กหรือหมอเฉพาะทางเพื่อจะได้ช่วยชีวิต

จากนั้นประมาณ 15 นาที ทางครูโรงเรียนแจ้งว่าพบถุงขยะสีดำที่คาดว่าจะเป็นถุงที่ใส่เด็กดังกล่าวจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ แต่ครูแจ้งว่าคาดการณ์ว่าเด็กอาจเสียชีวิตแล้ว สภาพที่เห็นคือ เด็กอยู่ในถุงขยะสีดำและก็มีเศษขยะอยู่ในถุงดำปนอยู่กับศพเด็กบริเวณลำตัวของศพพบมีมดใต่ตามตัวเด็ก แล้วก็จากการยกเด็กขึ้นมาจากการตรวจร่างการก็พบว่าเด็กไม่มีสัญญาณชีพแล้ว ดูในถุงดำก็มีรกออกมากับเด็กด้วยสายสะดือก็ถูกตัดด้วยของมีคม เพราะขอบแผลรีบมาก

จากการชันสูตรพลิกศพพบว่าน้องทารก เป็นเพศหญิง น้ำหนัก 2,820 กรัม น้ำหนักรก 380 กรัม สภาพร่างการเด็กสมบูรณ์ดีหมด คาดการณ์อายุครรภ์น่าจะครบกำหนดหรือใกล้ที่จะครบกำหนดคลอด เพราะสภาพร่างการสมบูรณ์
ร่องรอยบาทแผลที่เจอจากการชันสูตรคือสงสัยบริเวณแผลตรงลำคอด้านซ้ายขนาดแผลกว้าง 2-3 มิลลิเมตร เลยปรึกษาแพทย์นิติเวชที่โรงพยาบาลน่านแนะนำให้ส่งชันสูตรพลิกศพต่อไป เพราะจะต้องดูว่าน้องทารกที่เสียชีวิต เสียชีวิตจากการตายคลอด หรือคลอดมาแล้วยังมีชีวิตอยู่ แล้วมาเสียชีวิตทีหลัง ตอนนี้ได้ส่งศพไปชันสูตรพลิกศพต่อที่โรงพยาบาลแพร่ โดยทางตำรวจได้มารับศพเพื่อส่งชันสูตรเช้าเมื่อวาน โดยผลชันสูตรต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีเป็นผู้ตอบว่าได้ผลเป็นเช่นไร


ด้านคุณหมอฝากเตือนว่า ในช่วงชีวิตวัยรุ่นเป็นธรรมดาของช่วงวัย แต่การมีเพศสัมพันธ์อย่างไรถึงเรียกว่าเซฟเซกส์ หรือหากมีความผิดพลาดมาควรปรึกษา พ่อแม่ ครูอาจารย์ หรือทางหมออย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง อาจจะเสียไปตลอดทั้งชีวิต

สำหรับยาตัวที่เด็กนักเรียนวัย 17 สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตมาใช้นั้น ต้องบอกก่อนว่าเป็นภาษาญี่ปุ่น ยังไม่มั่นใจว่า น้องนักเรียนอ้างว่ามีการขับถ่ายลำบากเลยไปซื้อยาจากทางอินเตอร์เน็ตมากิน ไม่มั่นใจว่าน้องรู้หรือไม่รู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ ส่วนความอันตรายของยาทางแพทย์ยังไม่มั่นใจเพราะยังเป็นภาษาต่างประเทศจึงไม่รู้ว่าเป็นยาอะไรกันแน่ อาจจะเป็นยาระบายจริงๆอย่างที่น้องกล่าวอ้าง หรืออาจเป็นยาขับเลือดก็ได้ หรืออาจเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการบีบตัวหรือรัดตัวมดลูก ซึ่งต้องส่งให้ทาง อย.ตรวจสอบให้แน่ชัดอีกที

ด้านผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนมัธยมดังกล่าวเพื่อสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเช่นไร ได้รับการแจ้งจากครูเวรว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนปฏิเสธการให้ข้อมูลโดยปิดประตูห้ามผู้สื่อข่าวเข้าไปในบริเวณโรงเรียน

จากนั้นได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี ทราบว่าเป็นวันหยุดจึงได้ติดต่อทางโทรศัพท์ ปลายสายได้สอบถามว่าเป็นใคร เมื่อแจ้งว่าเป็นผู้สื่อข่าวได้รับคำตอบว่า โทรผิดแล้ววางสาย จึงสอบถามไปยังผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเฉลิมพระเกียรติ ปฏิเสธการให้ข้อมูลและให้ความเห็น แจ้งว่าผู้อำนวยการโรงเรียนแจ้งยังไม่พร้อมให้ข้อมูล

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น