ลำพูน ประชุมฯ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ถอดบทเรียน มุ่งแก้ไขการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 ที่ห้องประชุมจามเทวี ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดลำพูน เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงาน และติดตามสถานการณ์การดำเนินการป้องกันและลดอุบัติทางถนน รวมถึงการนำข้อมูล หรือปัญหา อุปสรรคจากเหตุการณ์ มาร่วมกันพิจารณาถอดบทเรียน มุ่งสู่การแก้ไขการเกิดและลดอุบัติเหตุในพื้นที่ อย่างเป็นรูปธรรม โดยมี นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน คณะกรรมการศูนย์ฯ นายอำเภอ ทั้ง 8 อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้เน้นย้ำให้ ส่วนราชการ และอำเภอทุกอำเภอ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกัน และลดการเกิดอุบัติเหตุของจังหวัดลำพูน ที่สำคัญคือมุ่งเน้นให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามวินัยจรารอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ให้สวมหมวกนิรภัยทุกคน ซึ่งถือเป็นวาระของจังหวัดลำพูน รณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนน สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ และการเฝ้าระวังในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด- 19 อย่างต่อเนื่อง

ผลการดำเนินงานช่วงเดือนมกราคม 2565 ของจังหวัดลำพูน พบว่า เกิดอุบติเหตุ 51 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 50 ราย ผู้เสียชีวิต 4 ราย โดยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถเร็วเกินกำหนด ตัดหน้ากระชั้นชิด สภาพรถไม่เอื้ออำนวยต่อการเดินทางและทัศนวิสัยไม่ดี ในที่ประชุมยังได้เน้นย้ำในเรื่องของจุดตรวจและด่านชุมชน ให้สังเกตอาการของผู้ขับขี่ ว่ามีความพร้อมในการขับขี่หรือไม่ และตรวจสอบว่าผู้ขับขี่มีการใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยหรือไม่ รวมถึงควรเพิ่มมาตรการด้านการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นมากขึ้น โดยตั้งจุดตรวจเพิ่มขึ้นและปรับให้สอดคล้องกับช่วงเวลาการเกิดอุบัติเหตุ ให้ความสำคัญกับพฤติกรรมเสี่ยงหลักเพิ่มมากยิ่งขึ้น อาทิ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่สวมหมวกนิรภัย ดื่มแล้วขับ และขับรถเร็วเกิดกฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ จังหวัดลำพูน ขอความร่วมมือให้ประชาชน และผู้ที่ใช้รถใช้ถนน ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด คาดเข็มขัดนิรภัย และสวมหมวกนิรภัย ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง และใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย ตามแบบ ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ โดยมีผลบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นี้เป็นต้นไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น