ข่าวจริง มหาดไทย ขยายเวลาทำบัตรประชาชนใหม่ ถึง 30 มิ.ย. 65

วันที่ 29 ม.ค. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวจริง เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่ได้มีการแชร์ข่าวสารในประเด็นเรื่อง มหาดไทย ขยายเวลาทำบัตรประชาชนใหม่ ถึง 30 มิ.ย. 65 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้มีประกาศ เรื่อง ขยายกำหนดเวลาการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) (เพิ่มเติม ครั้งที่ 2) ลงวันที่ 16 เมษายน 2564 เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่ประชาชนจะต้องเดินทางไปขอมีบัตร ขอมีบัตรใหม่ หรือขอเปลี่ยนบัตร ในทุกท้องที่จังหวัดและกรุงเทพมหานคร จากภายในกำหนดหกสิบวัน นับตั้งแต่วันที่ต้องมีบัตร มีบัตรใหม่ หรือเปลี่ยนบัตร เป็นภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 นั้น
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ในปัจจุบันยังคงมี การแพร่ระบาดของโรคกระจายไปทุกท้องที่จังหวัดและกรุงเทพมหานคร และการตรวจพบผู้ป่วยยืนยัน ติดเชื้อรายใหม่โดยเฉพาะกรณีที่เป็นการติดเชื้อภายในประเทศยังมีจำนวนมากในแต่ละวัน จึงมีความจำเป็น ที่ต้องกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อร่วมแก้ไขและระงับยับยั้ง สถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 เบญจ แห่งพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2526 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2554 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงออกประกาศให้ขยายกำหนดเวลาการขอมีบัตร การขอมีบัตรใหม่ หรือการขอเปลี่ยนบัตรในทุกท้องที่จังหวัดและกรุงเทพมหานคร เพิ่มเติม จากภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เป็นภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565

ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากกรมการปกครอง สามารถดูที่เว็บไซต์ www.dopa.go.th หรือโทร 02 226 2810
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : มหาดไทย ขยายเวลาทำบัตรประชาชนใหม่ ถึง 30 มิ.ย. 65
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น