สำรวจแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่บ้านเมืองแพม

ททท. สำรวจแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ลานกางเต็นท์ชุมชนบ้านเมืองแพม Camp Parks พร้อมเสนอขายการท่องเที่ยว เชื่อมโยงถ้ำน้ำลอด และบ้านเมืองแพม

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 ว่าที่ร้อยตรี ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน นำทีมงาน พร้อมด้วย เครือข่ายการท่องเที่ยวชุมชนบ้านเมืองแพม บริษัทนำเที่ยวของชุมชน Thai localista และชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวปางมะผ้า สำรวจแหล่งท่องเที่ยวลานกางเต็นท์ชุมชนบ้านเมืองแพม (Camp Parks) ในพื้นที่บ้านเมืองแพม หมู่ 5 ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน อยู่ห่างจากถ้ำน้ำลอดประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแหล่งพักผ่อนกางเต็นท์ชมธรรมชาติ ได้บรรยากาศแห่งการพักผ่อน ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติแบบชนบทอย่างแท้จริง มีทุ่งนา ลำธารน้ำ ฝูงกระบือ วังปลา รายล้อมด้วยขุนเขาที่สวยงาม อากาศสดชื่น และมีลมพัดเย็นตลอดเวลา พร้อมกับได้ร่วมประชุมหารือกับชาวบ้านในชุมชน เพื่อหารือแนวทางการบริหารจัดการด้านการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนให้ยั่งยืน ตามแนวคิด BCG Model ของรัฐบาล โดยให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และสามารถเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวได้สะดวก

สำหรับบ้านเมืองแพม เป็นชุมชนของชาวปกาเกอะญอ แห่งเดียวในอำเภอปางมะผ้า มีประชากรประมาณ 133 ครัวเรือน ประมาณ 600 กว่าคน นับถือศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำการเกษตร เช่น ทำนาข้าว (ข้าวจ้าว และข้าวดอย) ใบชา สวนผลไม้ พืชผักสวนครัว บรรยากาศของหมู่บ้านจึงมีความสวยงามด้วยแปลงเกษตรผสมผสานกับความสวยงามของธรรมชาติอย่างลงตัว โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนทิวทัศน์จะสวยงามด้วยผืนนาสีเขียวแบบขั้นบันได้เป็นระยะ มีลำธารน้ำลอด เป็นลำน้ำที่มีน้ำใสไหลเย็นหล่อเลี้ยงผู้คนในชุมชนตลอดเวลา รวมทั้งมีวังปลาซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์ปลาในท้องถิ่น ได้แก่ ปลาพลวง ซึ่งเป็นปลาสายพันธุ์เดียวกับปลาในวนอุทยานถ้ำน้ำลอด และเป็นลำน้ำเดียวกัน

สำหรับลานกางเต็นท์ (Camp Parks) แห่งนี้ อยู่ในพื้นที่การเกษตรของคุณวสันต์ และคุณศรีนวล บุญสุขประสิทธิ์ ซึ่งเป็นเกษตรกรในหมู่บ้าน ร่วมกับคนในชุมชน นำโดยคุณเสรีทอง ศักดิ์คีรีงาม ประธานท่องเที่ยวชุมชนบ้านเมืองแพม จัดทำขึ้นในพื้นที่บนเนินเล็ก ๆ ประมาณ 1 ไร่ ซึ่งมีโรงเรือนเป็นกระท่อมหลังเล็กสร้างด้วยไม้ ผสมไม้ไผ่ มุงสังกะสี เป็นจุดอำนวยการ และมีศาลาหลังคาทำด้วยผ้าใบและมีโครงสร้างวัสดุจากไม้ไผ่ มีโต๊ะตรงกลาง นั่งได้ประมาณ 20 คน เป็นจุดนันทนาการรับประทานอาหาร รับประทานกาแฟ มีจุดแคมป์ไฟ นั่งรอบกองไฟ บริเวณใกล้เคียงปรับเป็นพื้นที่กางเต็นท์ ซึ่งมีเต็นท์นอนขนาด 2 คน พร้อมเครื่องนอน จำนวน 10 หลัง รองรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งละไม่เกิน 20 คน บริเวณจุดนี้สามารถมองเห็นลำธารน้ำและชมวิวได้อย่างสวยงาม โดยยังไม่มีการต่อกระแสไฟฟ้า มีแต่เพียงไฟตะเกียงส่องสว่างแบบโซล่าร์เซลล์ และตะเกียงกระบอกไม้ไผ่แบบโบราณ จึงได้บรรยากาศแบบธรรมชาติเป็นอย่างมาก ในยามค่ำคืนหากไม่มีเมฆหมอกหนาสามารถดูดาวได้ชัดเจนสวยงาม สำหรับสัญญาณโทรศัพท์มือถือในเครือข่าย AIS มีสัญญาณในบางจุดประมาณ 1-2 ขีด สัญญาณอินเตอร์เน็ทขึ้นบริการแบบ 3G ส่วนเครือข่ายอื่น ณ วันนี้ยังไม่พบสัญญาณ ดังนั้น ใครที่ชอบถ่ายรูป จึงแนะนำให้นำ Power Bank และไฟฉายส่วนตัว มาด้วย ในส่วนของห้องน้ำ ก็มิดชิดปลอดภัย ซึ่งมีห้องสุขาแบบชักโครก 2 ห้อง ห้องอาบน้ำแบบฝักบัว 2 ห้อง โดยใช้น้ำจากระบบประปาหมู่บ้าน ที่สะอาด และมีห้องสุขาแบบนั่งยอง 1 ห้อง

การเดินทางสะดวก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อจากวนอุทยานถ้ำน้ำลอด ตามเส้นทางมาถึงหมู่บ้านเมืองแพม (สามารถค้นหาชื่อ “บ้านเมืองแพม” ใน Google Map ได้) ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง สลับกับทางคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) รถยนต์รถจักรยานยนต์เดินทางมาได้ทุกประเภท จนถึงหมู่บ้าน จากนั้น เดินทางต่อออกจากหมู่บ้านบริเวณด้านหลังโรงเรียนบ้านเมืองแพม ตามทางดินบดอัด สำหรับเส้นทางช่วงนี้ หากเป็นฤดูฝนจะให้นักท่องเที่ยวจอดรถที่วัดเมืองแพม แล้วเดินเท้ามายังจุดกางเต็นท์ หรือ Camp Parks ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที แต่หากเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบธรรมดาไม่ต้องตกแต่งอะไรก็เดินทางมาจนถึงจุดกางเต็นท์ (Camp Parks) ได้อย่างสะดวก มีพื้นที่จอดรถยนต์ได้ประมาณ 3-4 คัน

ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวตามข้อตกลงของชุมชน ดังนี้

  1. ค่าบริการเต็นท์ พร้อมเครื่องนอน หลังละ 450 บาท
  2. ค่าอาหารต่อมื้อ คนละ 140 บาท ประกอบด้วย ข้าวจ้าวและอาหาร 4 อย่างตามฤดูกาล ซึ่งจะมีน้ำพริกผักสดเป็นอาหารยืนพื้น โดยชาวบ้านในชุมชนจะหมุนเวียนตามคิว มาเป็นเชฟท้องถิ่นประกอบอาหารให้ ซึ่งภาชนะใส่อาหารก็เป็นวัสดุจากธรรมชาติ อาทิ ไม้ไผ่ ใบตอง นอกจากนี้ยังมีชาดีของท้องถิ่นให้ชิมเป็น Welcome Drink ด้วย โดยค่าใช้จ่ายต่างๆ จะถูกนำมาหักในสัดส่วนที่เป็นธรรม เพื่อสมทบเป็นกองทุนในการพัฒนาส่งเสริมให้ความช่วยเหลือคนในชุมชนต่อไป

นายเสรีทอง ศักดิ์คีรีงาม ประธานท่องเที่ยวชุมชนบ้านเมืองแพม กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ มีโอกาสต้อนรับคณะนักท่องเที่ยววัยทำงานหลากหลายอาชีพจากประเทศสิงคโปร์ จำนวน 20 คน เป็นคณะแรก ซึ่งร่วมโปรแกรมท่องเที่ยวจาก “ทัวร์เมิงไต” โดยนักท่องเที่ยวทุกคนชื่นชอบ นักท่องเที่ยวบางคนประทับใจและบอกว่าเพิ่งเคยพบเห็นกระบือตัวเป็น ๆ และชื่นชอบบรรยากาศมากและจะเดินทางมาท่องเที่ยวอีกแน่นอน และคาดว่าสถานที่แห่งนี้จะได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ซึ่งจะพยายามประสานการดำเนินการภายใต้แนวคิด BCG Model ที่เพิ่มมูลค่า รวมทั้งกระจายผลประโยชน์ในชุมชนอย่างเป็นธรรม และคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมโดยดำเนินการในรูปแบบความเป็นธรรมชาติ ใช้วัสดุและทรัพยากรในท้องถิ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ว่าที่ ร.ต. ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า แหล่งท่องเที่ยวจุดกางเต็นท์ชุมชนบ้านเมืองแพม (Camp Parks) แห่งนี้ นับเป็นสินค้าการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่จะส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ประทับใจแบบชนบทอย่างแท้จริง ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอ สามารถเสนอขายสู่กลุ่มเป้าหมายทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศได้ตลอดทั้งปี และสามารถประชาสัมพันธ์เสนอขายได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดเพิ่มมูลค่าจากผลิตภัณฑ์ของชุมชนได้อีกมากมาย เช่น การจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก การให้บริการรถรับ-ส่ง หรือการเพิ่มมูลค่าจากอาหาร รวมทั้งภาชนะซึ่งทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นการกระจายรายได้ให้คนในชุมชนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับชุมชนอื่น ๆ ได้ด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ ยังเชื่อมโยงเส้นทางกับถ้ำน้ำลอด และกลุ่มถ้ำต่างๆ ในอำเภอปางมะผ้า รวมถึงชุมชนท่องเที่ยวบ้านเมืองแพม ซึ่งเป็นทางผ่านเข้าสู่จุดกางเต็นท์แห่งนี้ ซึ่งบ้านเมืองแพม เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่น่าสนใจ ที่จะได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวปกาเกอะญอ ที่มีแห่งเดียวในอำเภอปางมะผ้า มีจุดเดินท่องเที่ยวในหมู่บ้านหลายจุด ได้แก่ จุดสาธิตการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ รวมถึงการทอผ้าแบบกะเหรี่ยง ต่อไปเป็นจุดสาธิตภูมิปัญญาสมุนไพรท้องถิ่น และเดินต่อไปชมและร่วมกิจกรรมการจักสาน “กระแปม” เป็นที่ใส่สิ่งของของชาวกะเหรี่ยง มีสายสะพายไว้ด้านหลัง (พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือเหมือนกับเป้ที่สานด้วยไม่ไผ่ ไม่มีฝาปิด) จุดสุดท้ายคือการสาธิตหัตถกรรมการนำเศษไม้จากไม้ที่ล้ม หรือไม้ที่ตายแล้ว หรือไม้ไผ่ มาตัดแต่งตกแต่งเป็นข้าวของเครื่องใช้ อาทิ แก้วกาแฟ ช้อนรับประทานอาหาร ช้อนกาแฟ หน้าไม้จำลอง ตะหลิว ทัพพี ฯลฯ ซึ่งการเดินชมในหมู่บ้านใช้เวลาไม่นานและเดินไม่ไกลไม่เหนื่อย ประมาณ 1 กิโลเมตร และภายในหมู่บ้านจะได้พบกับวิถีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย บ้านบางหลังยังคงให้เห็นภูมิปัญญาจากโครงสร้างที่สวยงามแต่เรียบง่าย หลังคาทำจากแป้นเกล็ด อายุนับร้อยปี และมีพันธุ์ไม้ดอกไม้ต่าง ๆ ให้ชื่นชม รวมทั้งมีลำธารน้ำผ่านในหมู่บ้านก็เป็นเสน่ห์ไปอีกแบบ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าในหมู่บ้านระยะสั้น ๆ เพื่อเรียนรู้ระบบนิเวศ รวมทั้งได้ความรู้จากภูมิปัญญาวิถีชีวิตที่คนอาศัยร่วมกับป่า มีถ้ำและน้ำตกเล็ก ๆ ที่สวยงาม

ในหมู่บ้านชุมชนบ้านเมืองแพม ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ที่ได้รับมาตรฐาน จำนวน 16 หลัง โดยมีกติกาว่าจะต้องหมุนเวียนการเข้าพักไปตามคิวของชุมชน ไมีมีการลัดคิวหรือระบุตัวบ้านที่จะเข้าพักได้ รวมทั้งมีบริการรถรับส่งจากอำเภอปางมะผ้า หรือรับมาจากถ้ำน้ำลอด ซึ่งราคาเป็นธรรม หากสนใจสามารถติดต่อได้โดยตรงที่ คุณเสรีทอง ศักดิ์คีรีงาม ประธานท่องเที่ยวชุมชนบ้านเมืองแพม โทรศัพท์ 09 6147 2719

ร่วมแสดงความคิดเห็น