กฟก. แจงความคืบหน้าหารือร่วมกับสถาบันเจ้าหนี้

กฟก. แจงความคืบหน้าหารือร่วมกับสถาบันเจ้าหนี้ เพื่อนำไปสู่การทำ MOU แก้ปัญหาหนี้ให้เกษตรกร

นายสมยศ ภิราญคำ รองเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนเกษตรกร เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ให้ดำเนินการเจรจาร่วมกับสถาบันเจ้าหนี้เพื่อนำไปสู่การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดการหนี้ให้เกษตรกรสมาชิก โดยความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2565 สำนักงานได้มีการประชุมร่วมกับสมาคมธนาคารไทย และตัวแทนจากธนาคารสมาชิกสมาคมธนาคารไทย ผลจากการหารือมีข้อสรุปร่วมกันหลายประเด็น โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้ ธนาคารสมาชิกสมาคมธนาคารไทยยินดีขยายกรอบจัดการหนี้ให้กับเกษตรกร จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าต้องขึ้นทะเบียนหนี้ก่อน 31 ธ.ค. 2562 ขยายเป็น 31 ธ.ค. 2564 และ กฟก. ยินดีเร่งรัดการอนุมัติชำระหนี้แทนเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายที่ขึ้นทะเบียนหนี้ก่อน 31 ธ.ค. 2562 เสนอคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร เพื่อพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน หรือภายในวันที่ 15 ก.ค. 2565 โดยขอให้ธนาคารเร่งแจ้งผลการอนุมัติมาด้วยเช่นกัน และเพื่อให้การจัดการหนี้มีความรวดเร็วทั้ง 2 ฝ่ายจะให้มีการกระจายอำนาจตรวจสอบข้อมูล การเจรจาหนี้ และการอนุมัติชำระหนี้แทนให้กับธนาคารสาขาจังหวัดมีอำนาจดำเนินการได้ โดย กฟก. จะให้ความร่วมมือในการกระจายอำนาจให้สาขาจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการสั่งจ่ายเงินเพื่อชำระหนี้แทนให้กับธนาคารได้เช่นกัน ในประเด็นเงื่อนไขการจัดการซื้อทรัพย์ NPA ธนาคารให้ความร่วมมือในการเปลี่ยนเงื่อนไขคุณสมบัติจากเดิม อนุมัติให้กับเกษตรกรที่เป็นหนี้ NPA ภายหลังการขึ้นทะเบียนหนี้ เปลี่ยนเป็นอนุมัติให้กับเกษตรกรที่มีรายชื่อได้รับการอนุมัติตามมติ ครม. หรือตามที่คณะกรรมการกองทุนฯ เห็นชอบแล้ว และมีคุณสมบัติตามระเบียบที่คณะกรรมการ กฟก. กำหนด ส่วนการดำเนินการทางกฎหมาย จะให้ความร่วมมือชะลอการดำเนินการทางกฎหมายตามที่ กฟก. แจ้งเป็นหนังสือ เว้นแต่กรณีที่จะขาดอายุความ หรือ กรณีที่อยู่นอกเหนืออำนาจของธนาคาร กรณีที่คณะกรรมการจัดการหนี้อนุมัติให้ชำระแทนเกษตรกรรายใดแล้ว ขอให้ กฟก.แจ้งรายชื่อให้ธนาคารทราบโดยเร็ว เพื่อจะได้หยุดหรือชะลอการดำเนินคดีทางกฎหมายทุกกรณีออกไปจนกว่าธนาคารจะได้รับการชำระหนี้จาก กฟก. และ กรณีที่เกษตรกรอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนหนี้ หรืออุทธรณ์ทะเบียนหนี้ หรือ จัดการหนี้ตามแต่กรณี ธนาคารจะชะลอการดำเนินการทางกฎหมายให้เกษตรกร โดยผ่อนผันให้จากเดิม 90 วัน ขยายเป็น 150 วัน และ กฟก. จะเร่งเสนอคณะกรรมการจัดการหนี้พิจารณาโดยเร็ว และแจ้งผลให้ธนาคารทราบเพื่อดำเนินการเร่งรัดจัดการหนี้ให้เกษตรกร ในกรณีการขยายกรอบการจัดการหนี้ จากเดิมไม่เกิน 2.5 ล้านบาท เป็นรายละไม่เกิน 5 ล้านบาท ธนาคารยินดีขยายกรอบวงเงินดังกล่าวให้ โดยให้คณะกรรมการจัดการหนี้พิจารณาเงื่อนไขการรับชำระเช่นเดียวกับเจ้าหนี้รายอื่นด้วย และชะลอการขายหนี้หรือสิทธิเรียกร้องให้กับเจ้าหนี้รายอื่น (บ.บริหารสินทรัพย์) เพื่อรอการชำระหนี้จาก กฟก. ให้กับเกษตรกร จากกรอบการหารือข้างต้นจะนำไปสู่การจัดทำบันทึกความร่วมมือตามข้อเรียกร้องของกลุ่มสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย ธนาคารสมาชิกธนาคารไทย จะต้องรายงานต่อคณะกรรมการของธนาคารแต่ละแห่งภายใต้มติการประชุมของธนาคารไทย ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ผลการประชุมมีมติเป็นประการใด ธนาคารโดยตัวแทนธนาคารยินดีให้ความร่วมมือจัดทำบันทึกความร่วมมือได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2565 นายสมยศ กล่าว


สมฤทธิ์/แพร่

ร่วมแสดงความคิดเห็น