เชียงใหม่ เตรียมรับสถานการณ์อุทกภัย ปี 2565
จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย ปี 2565 จัดตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย
วันนี้ (17 พ.ค. 65) ที่ ห้องประชุม 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายอารุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการจัดตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ว่า ขณะนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการเตรียมความรับมือกับสถานการณ์อุทกภัย ประจำปี 2565 ทั้งการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ การจัดทำแผนเผชิญเหตุ การจัดระบบระบายน้ำและการเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำ ตลอดจนการตรวจสอบความพร้อมของลำน้ำ สถานที่กักเก็บน้ำหรือกั้นน้ำ รวมถึงการแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนและการขอรับความช่วยเหลือหลังประสบภัย
โดยได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการในระดับจังหวัด อำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินท้องถิ่น พร้อมจัดชุดปฏิบัติการพิเศษเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที ด้าน นายรักชัย ศรีนวน นักอุตุนิยมวิทยา ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้
โดยคาดการณ์ว่า ปีนี้ จังหวัดเชียงใหม่จะมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง ถึงร้อยละ 3 ซึ่งจะมีฝนตกอย่างต่อเนื่องในห้วงเดือนพฤษภาคม และจะลดลงในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม จากนั้นในห้วงเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนกันยายน จะเป็นช่วงที่มีฝนตกชุกหนาแน่นอีกครั้ง นอกจากนี้ในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน ยังคาดว่าจะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่านประเทศไทยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ถึง 2 ลูก ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมถึงน้ำล้นตลิ่งในบางพื้นที่ได้ ขณะที่ นายปราณด์ จรมาศ หัวหน้าฝ่ายประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 1 เปิดเผยถึงภาพรวมสถานการณ์น้ำในจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณน้ำมากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานชลประทานที่ 1 ได้มีแผนเตรียมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย เพื่อไม่ให้มีปริมาณน้ำไหลเกินขีดจำกัดของลำน้ำปิง และหากเกิดฝนตกหนักบนเทือกเขาสุเทพ-ปุย จะมีการระบายน้ำลงคลองแม่แตงและด้านท้ายของแม่น้ำปิง ทั้งนี้ จึงขอความร่วมมือประชาชนไม่ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแหล่งน้ำ เพื่อป้องกันการอุดตันของระบบระบายน้ำอีกด้วย
ร่วมแสดงความคิดเห็น