ข่าวร้อนในญี่ปุ่นวันนี้ที่กำลังเป็นประเด็นถูกกล่าวถึงอย่างมาก ก็คือการที่ญี่ปุ่น บังคับให้ น้องหมา แมว ทุกตัวต้องฝังชิพจากผู้ขาย หลังการขาย เพื่อระบุเจ้าของได้ หากถูกทอดทิ้ง ซึ่งจะเริ่มใช้กฏนี้ในวันที่ 1 มิ.ย. 2565 นี้แล้ว.
จากข้อมูลของกระทรวงสิ่งแวดล้อม จำนวนน้องหมาและแมว ที่รัฐบาลท้องถิ่นเข้าต้องจับมา เนื่องมาจากการทอดทิ้ง ได้เพิ่มกว่า 85,000 ตัวในปีเรวะ 1 ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องจัดการ จึงมี พ.ร.บ. ว่าด้วยสวัสดิการและการจัดการสัตว์ฉบับปรับปรุง ซึ่งกำหนดให้สุนัขและแมวต้องสวมไมโครชิป จะมีผลบังคับใช้ในเดือนมิ.ย. ปีหน้า เพื่อให้รู้ว่าใครคือเจ้าของได้ทันที
โดยจะมีข้อมูลเช่น ชื่อ เพศ สายพันธุ์ สีผมของสุนัขและแมว ตลอดจนชื่อพ่อค้า โดยต้องลงทะเบียนในฐานข้อมูล นอกจากนี้ เมื่อซื้อสุนัขหรือแมว เจ้าของยังต้องลงทะเบียนชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ภายใน 30 วัน ของบรรดาผู้ที่เป็นเจ้าของแล้ว ผู้ที่ได้รับช่วงดูแลน้องต่อ และกลุ่มคุ้มครองสัตว์ก็ต้องรักษาไมโครชิพไว้
โดยในไมโคชิพจะมี “หมายเลขประจำตัว” แสดงบนไมโครชิปที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 มม. และยาวประมาณ 1 ซม. ซึ่งสัตวแพทย์ติตตั้งได้ตั้งแต่คอถึงสะบักของสุนัขและแมว โดยใช้เข็มฉีดยา
หมายเลขประจำตัว 15 หลักที่ไม่ซ้ำกันจะปรากฏขึ้นเมื่อเครื่องอ่านถือใกล้ๆ สุนัขหรือแมว แต่เนื่องจากไม่มีฟังก์ชัน GPS จึงไม่สามารถรู้ว่าอยู่ที่ไหน หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิน-อาวาจิในปี 1995 สุนัขและแมวจำนวนมากหลงทาง จึงได้มีไอเดียเริ่มถูกยกมาพูดคุยกันมากขึ้น เพื่อตรากฎหมายเพื่อแก้ไขกฎหมายสวัสดิภาพสัตว์และการจัดการ รัฐบาลกล่าวว่าการติดตั้งไมโครชิป จะหาเจ้าของได้ง่ายขึ้น หากน้องหลงทาง หรือ พลัดพลากจากกัน เนื่องจากภัยพิบัติ และสามารถป้องกันมิให้ถูกทอดทิ้งได้ง่ายๆ อีกด้วย
ข้อมูลจาก ครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น
ร่วมแสดงความคิดเห็น