ศูนย์ฯ ฝนหลวงเหนือ ปรับแผนทำฝนเติมน้ำเขื่อนหลัก

 

ฝนเทียม (1)

วันที่ 11 มี.ค.59 นางสาวหนึ่งหทัย ตันติพลับทอง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ภาคเหนือ เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พบความชื้นสัมพัทธ์ในระดับข้างบนที่เกิดเมฆ ความชื้นสัมพัทธ์ยังอยู่ในระดับต่ำ แม้จะเริ่มมีเมฆก่อตัวเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่เมฆที่จะสามารถเกิดฝนได้ จากการวิเคราะห์สถานการณ์ในเบื้องต้นไม่สามารถทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ แต่จะดำเนินการในลักษณะดัดแปลง สภาพอากาศ ให้เกิดการไหลเวียนช่วยเพิ่มปริมาณเมฆ หรือทำให้เมฆก่อตัวเพิ่มมากขึ้น ก็จะช่วยดูดซับหมอกควันต่าง ๆ ในพื้นที่ไปพร้อมกันด้วย แต่ถ้ามีโอกาสทำให้เกิดฝนตกได้ก็จะปฏิบัติการทันที ตั้งแต่เปิดปฏิบัติการฝนหลวงในปีนี้ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ได้ขึ้นบินไปแล้ว 2 วัน เพื่อเพิ่มปริมาณเมฆ ภายหลังปฏิบัติการ เมฆเพิ่มจำนวนและเติบโตเพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยปัจจัยของสภาพอากาศ ทำให้ไม่เกิดฝนตกในพื้นที่ ปัจจัยภายนอกที่มีความสำคัญต่อการทำฝนหลวง คือ ความชื้นสัมพัทธ์ และสภาพอากาศ ซึ่งการขึ้นบินแต่ละเที่ยวบินศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงหลวงภาคเหนือไม่ได้มุ่งเน้นทำฝนหลวงเพียงอย่างเดียว แต่ยังดำเนินการบรรเทาเรื่องของหมอกควันควบคู่ไปด้วยทำฝนเทียม (3)

นอกจากนี้ จากการประเมินผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ มีการปรับแผนตั้งฐานเติมสารเพิ่มเติมที่ จังหวัดแพร่ และ จังหวัดตาก เนื่องจากการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง คาดว่าตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.59 เป็นต้นไป โอกาสเกิดเมฆ / ฝนจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เน้นเพิ่มน้ำใน 4 เขื่อนหลัก เพื่อช่วยเหลือปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค บรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่า และ พื้นที่ประสบภัยแล้งด้านการเกษตร ตามลำดับ โดยหลีกเลี่ยงผลกระทบใน พื้นที่ที่ไม่ต้องการฝน และพื้นที่เก็บเกี่ยวที่จะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย

ฝนเทียม (2)

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น