เมื่อเวลา 11.00 น วันที่ 14 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ชาวบ้านได้ทำการช่วยเหลือเจ้าม่น ควายเพศเมีย วัย 5 ปีเศษน้ำหนักเกือบ 200 กิโลกรัม ได้ตกลงไปในบ่อน้ำร้าง พื้นที่ว่างบ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง บ้านห้วยทราย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายบุญทัน ทาหาร กำนันตำบลสุเทพ พร้อมนายสม ปัญามา เจ้าของควาย และชาวบ้านต่างลุ้นช่วยกันพยายามนำตัวของเจ้าม่นขึ้นมา แต่ต้องใช้เวลานานเกือบ 4 ชั่วโมงถึงนำขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย
โดยสภาพบ่อน้ำกว้างแค่เมตรเศษๆ ลึก เกือบ 10 เมตร บ่อน้ำเริ่มแห้งไม่มีน้ำ ซึ่งขาทั้ง 4 ได้ พับติดทับกันมานาน 6 วัน และไม่ได้กินอาหารเลย พอมีน้ำที่เหลือกินเล็กน้อยช่วยให้มีชีวิตอยู่รอดมาได้ โดยต้องใช้แบ็กโฮช่วยดึงขึ้นมา เมื่อขึ้นมาได้ เจ้าม่น มีแผลที่หลังเลือดออก มีอาการหวาดกลัว แต่โชคดีที่ขาไม่หักก่อนที่เจ้าของจะมาจูงไปผูกไว้ เพื่อเรียกฝูงมาหา
นายสม ปัญญามา อายุ 60 ปี กล่าวว่า ได้ออกตามหาเจ้าม่น เป็นควายแม่พันธุ์ ที่ซื้อมาตั้งแต่เล็กไม่ถึงหมื่นบาท เลี้ยงจากอีกที่หนึ่ง และเพิ่งย้ายมาร่วมกับฝูงที่มี 20 ตัวได้เดือนเศษ ก่อนหน้านี้ก็ปล่อยออกหากกินในพื้นที่ แต่แล้วก็หายไป ซึ่งเจ้าม่นเป็ควายลักษณะแม่พันธุ์ดี ตัวใหญ่ เขาสวย และสีม่นไม่ดำออกเทา เลยตั้งชื่อเจ้าม่น ช่วงหายไป ก็อกตามหามาตลอด และได้ไปแจ้งความไว้แล้วเพราะกลัวถูกขโมยไป จนมาช่วงสายของวันนี้ลองเข้ามาเดินหาบริเวณดังกล่าว ก็ไปพบตกอยู่ในบ่อสภาพหมดแรง จึงได้แจ้งกำนัน ให้มาช่วย แต่เจ้าของที่ดินเป็นชาวต่างชาติ ไม่ยินยอมให้เข้ามาดำเนินการและจะแจ้งความดำเนินคดีข้อหาบุกรุก ต้องเสียเวลาไปนานนับชั่วโมงเพื่อรอภรรยาเจ้าของที่ มาอนุญาตให้ช่วยเหลือ จนช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย
ด้านายบุญทัน กล่าวว่าหลังจากตนได้รับการประสานก็รีบข้อความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านด้วยกัน โดยเฉพาะเจ้าของแบ็กโฮ ที่ทราบก็รีบมาช่วยขุดดินออกโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และลูกบ้านด้วยกันมาช่วยหลือกันด้วยน้ำใจจนทำให้เจ้าควายตัวนี้รอดตาย ได้นำสัตวแพทย์มาฉีดยาดูแลแผลเรียบร้อยปลอดภัย ก็กำชับให้นายสมช่วยดูแลควายให้ดีขึ้น
ส่วนอีกรายเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันเดียวกัน โดยทางผู้ชื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายกิตติ์ เชิงเวลลิ่งค์ อาสาสมัครกลุ่มงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงใหม่ ว่า ได้มีสัตว์ป่าหลุดตกลงไปในคลองชลประทานบริเวณหน้าวัดใหม่ห้วยทราย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังทราบเรื่องจึงได้ทางไปตรวจสอบ โดยเมื่อไปถึง ก็พบทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมด้วยชาวบ้านกำลังให้การช่วยเหลือลูกกวางตัวหนึ่งที่กำลังลอยคออยู่ในน้ำ สภาพอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ โดยทางทีมกู้ภัยได้พยายามทำการช่วยเหลือด้วยการนำอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อที่จะดึงตัวลูกกวางขึ้นจากน้ำ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงจะสามารถให้การช่วยเหลือลูกกวางดังกล่าวขึ้นมาได้ในที่สุด
ขณะเดียวกัน จากการสอบถามชาวบ้านและผู้อยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ไม่มีผู้ใดรู้ว่าลูกกวางตัวดังกล่าวมาจากไหน โดยก่อนหน้านี้มีชาวบ้านรายหนึ่งขับรถผ่านมาที่บริเวณจุดเกิดเหตุ แล้วสังเกตุเห็นว่ามีสัตว์ตกลงไป พยายามตะเกียดตะกายจะขึ้นมาบนฝั่ง แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นลาดทำให้ไม่สามารถปีนขึ้นมาเองได้ และทีแรกนึกว่าเป็นสุนัขตกลงไป จึงได้เข้าไปดูใกล้ๆ เพื่อที่จะช่วยเหลือ แต่พอดูอีกทีก็พบว่าเป็นลูกกวาง จึงได้ประสานทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้เข้าทำการช่วยเหลือในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตามภายหลังการดำเนินการช่วยเหลือลูกกวางตัวดังกล่าวได้เป็นที่สำเร็จแล้วนั้น จากการตรวจสอบพบว่าลูกกวางไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง เพียงแต่มีอาการอ่อนเพลีย เนื่องจากแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ประกอบกับได้ใช้แรงตะเกียดตะกายเพื่อที่จะขึ้นมายังฝั่งจึงทำให้เหนื่อยล้า ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่า ลูกกวางตัวดังกล่าว น่าจะหลงฝูงจากศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่า และหนีความแห้งแล้งจากในป่าเชิงดอยสุเทพลงมายังในเขต อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อหาแหล่งน้ำกิน แต่เกิดพลัดตกลงไปดังกล่าว โดยหลังจากที่ให้การช่วยเหลือเสร็จสิ้น ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันจับตัว ก่อนนำส่งยังศูนย์อนุรักษ์สัตว์วัดอุโมงค์ เพื่อให้การดูแลต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น