กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จับมือ ภาคท่องเที่ยว ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา

วิภาวัลย์ วรพุฒิพงศ์
วิภาวัลย์ วรพุฒิพงศ์

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จับมือ ภาคท่องเที่ยว ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา จัดสัมมนาระดมกึ๋นเพื่อพัฒนาธุรกิจ Long Stay ภาคเหนือรองรับกลุ่มผู้พำนักระยะยาวนานาชาติ รื้อปรับกลยุทธ์ทำแผนแม่บท 5 ปีท่องเที่ยว Long Stay ขยายกลุ่มเป้าหมายต่างชาติ-ไทยพัฒนามาตรฐานธุรกิจรองรับ

นายมนตรี ปิยากูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิด การสัมนา “การพัฒนาธุรกิจ Long Stay ภาคเหนือรองรับกลุ่มผู้พำนักระยะยาวนานาชาติ”ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาวของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ 2559 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2559 ที่ ศูนย์ประชุมนานาชาติคุ้มคำ-คุ้มขันโตก จังหวัดเชียงใหม่ โดยกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ซึ่งประกอบไปด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่และศูนย์วิจัยพัฒนาการท่องเที่ยว สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันจัดขึ้นมา ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการมากกว่า 200 คน

นายมนตรี ปิยากูล กล่าวว่า เนื่องจากในอนาคตอันใกล้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ จะเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นหรือจากประเทศทางตะวันออกตกที่จะมาพำนักระยะยาวเพิ่มขึ้น รวมถึงผู้สูงอายุคนไทยด้วย จึงเล็งเห็นว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องหาแนวทางพัฒนาธุรกิจ Long Stay กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ระยะ 5 ปี ( 2560-2564) เพื่อก้าวสู่นครแห่งลองเสตย์รองรับกลุ่มเป้าหมายต่างชาติใหม่รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุไทย โดยชูการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาความพร้อมธุรกิจบริการสุขภาพ (Healty Long Stay Model) และการเรียนรู้วัฒนธรรมเป็นจุดขาย

มนตรี ปิยากูล
มนตรี ปิยากูล

และจากการที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ประกอบไปด้วยกลุ่มจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน มีการจัดแผนยุทธศาสตร์ร่วมกันทั้ง 4 จังหวัด ก็ได้มีการกำหนดให้จัดกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องพัฒนาธุรกิจลองเสตย์หรือกลุ่มพำนักระยะยาว ซึ่งกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติที่จะเข้ามาพำนักในพื้นที่ เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าศักยภาพของจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ในเรื่องของการท่องเที่ยว ถือว่าเป็นตัวเฟื่องฟูตัวสุดท้ายที่รัฐบาลรัฐบาลกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ ฉะนั้นความสำคัญเรื่องการท่องเที่ยวจึงเป็นเรื่องที่ทุกคน ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันขับเคลื่อนต่อไป โดยเฉพราะเรื่องของวิธีการสร้างผลิตภัณณ์ใหม่ๆ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมานั้น กลุ่มภาคเหนือตอนบน1 นิยมขายความเป็นธรรมชาติ มีภูเขา มีแม่น้ำลำธารที่สวยงาม มีทะเลหมอก และเน้นขายในเรื่องของวัฒนธรรมประเพณีซึ่งมีความเข้มแข็งโดดเด่นในเรื่องของวัฒนธรรมล้านนา สองอย่างนี้เป็นสินค้าที่ได้นำเสนอต่อกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยว ปัจจุบันรูปแบบการท่องเที่ยวนั้นได้มีหลายรูปแบบด้วยกัน เพราะฉะนั้นกลุ่มเป้าหมายที่จะเลือกมาก็มีความหลากหลายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุในประเทศไทยหรือว่าต่างประเทศก็ตาม เนื่องจากความทันสมัยของการรักษาทางการแพทย์มีความชำนาญและก็มีเครื่องไม้เครื่องมือมากก็เลยทำให้คนอายุยืนขึ้นมาก เพราะฉะนั้นกลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ
นายมนตรี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โอกาสนี้เองที่นักธุรกิจกลุ่มภาคเหนือตอนบนที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ควรจะสร้างโอกาสในพื้นที่ของจังหวัดในส่วนของภาคเหนือที่เป็นที่หมายตาของนักท่องเที่ยวที่อยู่ในวัยเกษียณอายุราชการแล้ว ประเทศไทยมีจังหวัดที่เป็นที่หมายตาอยู่ 2 แห่ง ในส่วนของลองเสตย์ คือหัวหิน และเชียงใหม่ นั้นก็เป็นการบ่งบอกให้เห็นว่าโอกาสในการพัฒนาลองสเตย์ก็เป็นโอกาสที่จะเป็นไปได้สูง ในส่วนของทั้งรัฐบาลก็ได้จัดทำ พรบ.พำนักระยะยาว ซึ่งก็จะมีสาระสำคัญที่เกี่ยว สิทธิประโยชน์ การอำนวยความสะดวก ให้กับผู้ประกอบการที่จะมาลงทุนในด้านนี้ ตลอดทั้งคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาทำธุรกิจแบบลองเสตย์ การทำลองสเตย์นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นเฉาะต่างชาติ เพราะว่าประเทศไทยก็มีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่นผู้สูงอายุที่มาทำงานในจังหวัดเชียงใหม่ อยากมาใช้ช่วงบั้นปายชีวิตอยู่ที่เชียงใหม่ ดังนั้นจึงคิดว่านี้เป็นสิ่งที่จะตอบโจทย์ในการสร้างธุรกิจให้เชื่อมโยงในอนาคตเพื่อที่จะให้เป้าหมายของการที่จะให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาพำนักในระยะยาว ซึ่งก็จะเป็นการสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นได้ด้วย
ขณะที่นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเสริมว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ซึ่ง ประกอบไปด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางด้านวัฒนธรรม และเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ การคมนาคม และการศึกษา รวมถึงอัธยาศัยของคนในพื้นที่ที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของกลุ่มจังหวัด ทำให้มีนักท่องเที่ยวสนใจที่จะเข้ามาพำนักระยะยาว หรือ ลองสเตย์ ในจังหวัดมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้สูงอายุจากประเทศสหรัฐอเมริกา รองลงมาคืออังกฤษ

ออสเตรเลีย เยอรมัน และ เนเธอร์แลนด์ที่สนใจที่จะเข้ามาพำนักในจังหวัดเชียงใหม่ในอัตราที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากประเทศไทยเองเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน ซึ่งการที่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพำนักระยะยาวในพื้นที่มากขึ้น ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และการดำเนินงานโครงการลองสเตย์อย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการในพื้นที่ให้สามารถเข้าใจการตลาด การท่องเที่ยวแบบลองสเตย์มากยิ่งขึ้น

“ด้านสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน คือ ยังไม่เกิดกระบวนการรวมกลุ่มระหว่างผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยว หรือการร่วมมือกันของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทำให้การส่งเสริมลองสเตย์ หรือพำนักระยะยาวยังไม่เชื่อมโยงระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเท่าที่ควร ซึ่งนโยบายของหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอนเป็นนครแห่งลองเสตย์รองรับผู้สูงอายุนานาชาติวัยเกษียณที่ให้ความสนใจที่จะเข้ามาพำนักในพื้นที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้นกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จึงเห็นความสำคัญในการจัดโครงการส่งเสริมการตลาดลองสเตย์ เจาะกลุ่มตลาดใหม่ เพื่อเป็นการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยว และธุรกิจบริการด้านสุขภาพ และพร้อมผลักดันให้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เป็นศูนย์กลางธุรกิจลองสเตย์ของประเทศไทย รองรับนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในหลายภูมิภาคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมการพำนักระยะยาวที่เปลี่ยนไป ” ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว.

ร่วมแสดงความคิดเห็น