ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อกลางดึกวันที่ 18 มี.ค.59 ต่อเนื่องจนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 19 มี.ค.59 ที่อารามส้มสุก บ้านท่าเดื่อ หมู่ที่ 3 ต.บ้านแม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ได้จัดพิธีเจริญพุทธมนต์อบรมสมโภช พระธาตุเจ้าดวงดีสมปรารถนา พระพุทธรูปประจำวันเกิด โดยมีพระเกจิอาจารย์ หลายรูปได้เมตตาเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก เบิกเนตรพระพุทธรูป ทั้งหมด ซึ่งมีนางศิวณัฐ รัชตคำรงค์รัตน์ หรือป้าอ้วนดอยคำ ประธานฝ่ายฆราวาส และมีชาวบ้าน หลายร้อยคนเข้าร่วมงานอย่างคั่บคั่ง
สำหรับประวัติอารามส้มสุกเป็นวัดร้างที่อยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้านท่าเดื่อจากหลักฐานทางคำบอกเล่าได้ทราบว่าอารามส้มสุกนั้นแต่เดิมมีชื่อเรียกว่า วัดส้มสุก สร้างขึ้นใน ( จากการบอกเล่าโดยไม่มีการจารึก) สมัยของการก่อสร้างเมืองเชียงใหม่ โดยมีขุนหลวงมะลังก๊ะ เป็นผู้สร้าง มีอายุร่วม 700 กว่าปี ซึ่งในช่วงเวลาเดือน 9 เหนือ ของทุกปี หรือในวันเดือนเพ็ญหรือเดือนแรมจะปรากฏแสงของพระธาตุลอยออกจากสถานที่วัดส้มสุก หรือลอยจากสถานที่อื่นแล้วมาลงที่วัดส้มสุก ปรากฏให้ศรัทธาทั่วไปได้พบเห็น ดังนั้น คณะศรัทธาวัดท่าเดื่อและเจ้าอาวาสวัดท่าเดื่อได้ร่วมกันจัดสร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้น 1 องค์ ซึ่งมีขนาดความกว้าง 5 เมตร สูง 19 เมตร โดยมีวัตถุประสงค์ไว้เป็นที่สักการบูชาและยึดถือเป็นงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุเจ้าดวงดีสมปรารถนา
ด้านนางศิวณัฐ รัชตคำรงค์รัตน์ กล่าวว่าก่อนที่ตนเองจะมาอยู่ที่บ้านท่าเดื่อแห่งนี้ได้ฝันเห็นมีวัดร้างหลายร้อยปี แต่ไม่ทราบอยู่ที่ใด จนกระทั่งจะหาบ้านหลังใหม่อยู่จึงไปหาดูที่ธนาคารและเดินทางมาดูบ้านก็พบว่าตรงข้ามบ้านที่มาดูเป็นวัดร้างเหมือนในฝัน จึงตัดสินใจทำสัญญาซื้อบ้านหลังดังกล่าวจากธนาคาร แล้วตั้งจิตอธิฐานว่าถ้าได้มาอยู่ที่นี่ (บ้านท่าเดื่อ ) ก็ขอให้มีโชคลาภตลอดจะได้บูรณะวัดร้างแห่งนี้ให้กลับมาเป็นที่ศรัทธาสักการะบูชาของชาวบ้านอีกครั้งหนึ่ง
ต่อมาตนเองก็มีโชคลาภมาโดยตลอด และประมาณ 1 ปี ที่ได้มาอยู่ที่นี่ ก็ได้บูรณะวัดร้างแห่งนี้ จ้างช่างใหม่มาทาสีทองเจดีย์ สร้างศาลเจ้าที่ ศาลพระพรหม และวันนี้ได้นำพระสิงค์ ,พระเกตุ และพระประจำวันทั้ง 7 วัน ขนาด 80 ซม. สูง 120 ซม. มาประดิษฐานพร้อมนิมนต์พระเกจิ อาจารย์ ที่มีชื่อเสียงมาทำพธีปลูกเสก เบิกเนตร ให้พระพุทธรูปที่ตั้งอยู่ในอารามส้มสุกแห่งนี้ ให้ความร่มเย็นเป็นสุข แก่ชาวบ้านและผู้มากราบไหว้บูชา และเพื่อเป็นการฟื้นฟูวัดแห่งนี้ให้กลับมาที่ที่เคารพศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชน สืบทอดพระพุทธศาสนาให้ดำรงสืบต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น