สสส.หนุนชาวบ้านผารังหมี ปรับการทำนาตามแนวพระราชดำริ หันมาใช้สารอินทรีย์ทดแทน ผลิตแปรรูปข้าวกล้องปลอดสารพิษ เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ ส่งผลให้ชาวนาบ้านผารังหมี มีความสุขกายสุขใจ มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นห่างไกลจากสารเคมี
ชุมชนบ้านผารังหมี หมู่ 3 ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เป็นหมู่บ้านที่มีความเข้มแข็งจากพลังของคนในชุมชนที่มีจำนวน 382 คน 127 หลังคาเรือน ต้องการต่อสู้กับภัยธรรมชาติ ที่ขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูกจนไม่สามารถทำการเกษตรให้ได้ผลผลิตไปแข่งขันกับราคาตลาดได้ อีกทั้งที่ผ่านมา พึ่งพาเทคโนโลยีสมัยใหม่ ใช้ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ใช้สารเคมี เพื่อช่วยผลผลิตที่ใช้เกินความจำเป็นทำให้ต้นทุนการทำนาสูงจนขาดทุน อีกทั้งมีสารพิษตกค้างที่ผลผลิตและร่างกาย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม จึงคิดเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส หันทำนาปลอดสารพิษตามแนวพระราชดำริ ทำให้เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ และมีชื่อเสียงจากข้าวกล้องปลอดสารพิษ มีผู้สนใจสั่งซื้อจนผลิตขายไม่ทัน
นางสุดใจ ชมพูมี ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านผารังหมี กล่าวว่า ที่บ้านผารังหมี ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำอาชีพการเกษตร โดยมีพื้นที่การเกษตรทั้งหมด 4 พันกว่า ไร่ ทำนา 3,490 ไร่ และจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 จนท.สาธารณสุข ได้มาตรวจค้นหาสารเคมีในกระแสเลือดของชาวนาในหมู่บ้าน พบว่าชาวนาจำนวน 138 คนมีปัญหาสารเคมีตกค้างในระดับไม่ปลอดภัย 2 รายและในระดับเสี่ยง 43 ราย สาเหตุจากการใช้สารเคมีอย่างไม่เข้าใจ เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตลดปัญหาสารเคมีตกค้างในร่างกาย ชาวนาบ้านผารังมี จำนวน 65 ครัวเรือน จึงได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับผลผลิต หันมาใช้สารอินทรีย์ทดแทน เป็นมิตรกับธรรมชาติ ลดปัญหาด้านเศรษฐกิจ ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมีสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรมของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้การสนับสนุน เข้ามาแนะนำแนวทาง เริ่มจากการตัดรายจ่ายไม่จำเป็นจากการซื้อสารเคมี ส่งเสริมการทำปุ๋ยอินทรีย์ใช้ในแปลงนา ทำสารไล่แมลงสูตรต่างๆ จากวัสดุที่มีในหมู่บ้าน สูตรปุ๋ยอินทรีย์ และสารฆ่าหญ้าอินทรีย์ นอกจากนี้ยังมีการอบรมการทำรายรับ รายจ่าย เพื่อการออมเงินในครัวเรือนอีกด้วย และล่าสุดทางหน่วยงานพัฒนาที่ดิน ได้เข้ามาส่งเสริมให้ปลูกปอเทือง ในช่วงว่างเว้นปลูกข้าว เพื่อเพิ่มรายได้ และเป็นปุ๋ยพืชสดในแปลงนา
นายจันที ชมพูมี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านผารังหมี ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ชาวบ้านบ้านผารังหมี ไม่ได้รอคอยความหวังให้ใครมาช่วยเหลือ แม้ว่าใน 1 ปี จะสามารถทำนาได้เพียงปีละครั้ง เนื่องจากสภาพน้ำในช่วงฤดูแล้งไม่มี ชาวนาจึงต้องรู้จักการวางแผนการทำการเกษตรเพื่อให้ได้คุณภาพดีจำหน่ายได้ราคาสูง คุ้มค่ากับการลงทุน การปรับการทำนาตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรมของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้การสนับสนุน จนชุมชนประสบผลการทำนาอินทรีย์ ผลิตแปรรูปข้าวกล้องปลอดสารพิษเพิ่มมูลค่าข้าวได้ถึงตันละ 25,000 บาท ที่สำคัญชาวนาบ้านผารังหมีทุกวันนี้ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น มีความสุขกายสุขใจ มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นห่างไกลจากสารเคมี จากการทำนาอินทรีย์ สามารถลดต้นทุนการผลิตและยังสามารถรวมกลุ่มกันแปรรูปข้าวกล้องปลอดสารพิษ ขายในตราผางาม ได้ติดตลาดจนยอดการผลผลิตไม่ทันต่อความต้องการ
(ภาพประกอบ 3.1-3.2)
ร่วมแสดงความคิดเห็น