เชียงใหม่ จัดประชุมจัดระเบียบการจำหน่ายสินค้าพื้นที่ข่วงประตูท่าแพ

ร่วมหารือ (1) ร่วมหารือ (2)

เย็นวานนี้ (13 พ.ค.59) เวลา 16.30 น. ที่ห้องประชุม กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.โกศล ประทุมชาติ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 พร้อมด้วย นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันเป็นประธานจัดการประชุมการจัดระเบียบการจำหน่ายสินค้าและคัดเลือกผู้จำหน่ายสินค้า โดยการจัดประชุมวันนี้ สืบเนื่องจากตามที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการประชุมร่วม เพื่อหารือแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่โบราณสถาณของจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างส่วนราชการ/หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับประเด็นการใช้ประโยชน์สำหรับการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา ประเพณี และกิจกรรมในเชิงสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจังหวัดเชียงใหม่ ในวันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมศูนย์พัฒนากีฬา มณฑลทหารบกที่ 33
ทั้งนี้เพื่อให้การขับเคลื่อนและการประสานการปฏิบัติร่วมกัน เต็มไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 33 จึงได้เรียนเชิญ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ , ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ , ธนารักษพื้นที่เชียงใหม่ , ศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ , นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ , สรรพากรจังหวัดเชียงใหม่ และกลุ่มงานจราจรจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมประชุม การจัดการจำหน่ายสินค้า และคัดเลือกผู้จำหน่ายสินค้า
โดยมีพื้นที่ในการหารือจำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย พื้นที่ข่วงประตูท่าแพ ประชุมเพื่อหารือ ซึ่งเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้นำผังการขายสินค้ามาชี้แจงในที่ประชุม โดยที่ประชุมในครั้งที่ผ่านมา อนุญาตให้จัดเป็นพื้นที่ขายสินค้า และจัดเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมได้ ซึ่งการจัดผังจำหน่ายสินค้าจะต้องไม่บดบังทัศนียภาพของโบราณสถาณ โดยจะทำการคัดเลือกผู้จำหน่ายสินค้า และจัดล็อคสินค้า เพื่อกำหนดวันเปิดการขายสินค้าต่อไป ส่วนการหารือพื้นที่ไนท์บาร์ซ่า ประชุมเพื่อหารือการเตรียมทำผังการขายสินค้าใหม่ และคัดเลือกผู้จำหน่ายสินค้า โดยจะต้องเป็นผู้ค้าตัวจริงไม่มีการสวมสิทธิ์ในการจำหน่าย
พล.ต.โกศล ประทุมชาติ ผบ.มทบ. 33 เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้ เพื่อให้การขับเคลื่อนและการประสานการปฏิบัติร่วมกัน เต็มไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 33 จึงได้เรียนเชิญ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ , ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ , ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ , ศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ , นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ , สรรพากรจังหวัดเชียงใหม่ และกลุ่มงานจราจรจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมการประชุม การจัดการจำหน่ายสินค้า และคัดเลือกผู้จำหน่ายสินค้า
โดยมีพื้นที่ในการหารือจำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย พื้นที่ข่วงประตูท่าแพ,ไนท์บาซาร์และ ถนนคนเดินขายของเก่าหลัง ร.ร.ปรินส์รอเยลส์ ในส่วนของพื้นที่ข่วงประตูท่าแพทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้นำผังการขายสินค้ามาชี้แจงในที่ประชุม โดยที่ประชุมในครั้งที่ผ่านมา อนุญาตให้จัดเป็นพื้นที่ขายสินค้า และจัดเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมได้ ซึ่งการจัดผังจำหน่ายสินค้าจะต้องไม่บดบังทัศนียภาพของโบราณสถาน โดยจะทำการคัดเลือกผู้จำหน่ายสินค้า และจัดพื้นที่จัดวางสินค้า เพื่อกำหนดวันเปิดการขายสินค้าต่อไป ส่วนการหารือพื้นที่ไนท์บาซาร์ ประชุมเพื่อหารือการเตรียมทำผังการขายสินค้าใหม่ และคัดเลือกผู้จำหน่ายสินค้า โดยจะต้องเป็นผู้ค้าตัวจริงไม่มีการสวมสิทธิ์ในการจำหน่าย ขณะที่ถนนคนเดินขายของเก่าหลัง ร.ร.ปรินส์รอเยลส์นั้น เห็นควรว่าอาจจะต้องยุติการขายถาวร
ทางด้าน นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สาระสำคัญของการประชุมในวันนี้ คือการจัดระเบียบการค้าขายในพื้นที่ข่วงประตูท่าแพ แลนด์มาร์คสำคัญของ จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นสถานที่สาธารณะ ขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่ของประชาชนที่มีฐานะยากจน เข้ามามีส่วนร่วมในการค้าขายได้ แต่การค้าขายนั้นก็จะต้องเป็นไปตามที่ทางจังหวัดกำหนด โดยแบ่งเป็นร้อยละ 40 เป็นพื้นที่สาธารณะ และอีก 60 คือพื้นที่สำหรับการค้าขายในรูปแบบย้อนยุคเป็นเอกลักษณ์ของชาวเหนือ เช่น การตั้งแคร่ ให้สวยงาม ให้ผู้มาเที่ยวรู้สึกเหมือนได้ย้อนอดีตไปยังล้านนาสมัยก่อน และอนุญาตให้ขายเพียงแค่วันเดียวต่อสัปดาห์ คือวันอาทิตย์ เท่านั้น และไม่ให้บดบังประตูท่าแพ โดยจะมีการบังคับใช้ภาษี กับผู้ที่จะลงทะเบียนค้าขาย ห้ามมิให้มีการเช่าช่วงสินค้า หรือสวมสิทธิ์จำหน่าย และสินค้าที่จะขายต้องถูกควบคุม ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่แปลกแยกหรือแอบขายสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการจัดระเบียบครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นการส่งเสริมทำให้ข่วงประตูท่าแพ มีทั้งความสวยงาม เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนและนักท่องเที่ยว และยังจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีการค้าขายบรรยากาศย้อนยุคในวันอาทิตย์อีกด้วย
ขณะที่ผู้ค้าจากเดิมกว่า 800 ราย จะได้มีการกำหนดให้เหลือเพียงประมาณ 264 ราย โดยจะต้องมีการประชุมคัดเลือกผู้มีสิทธิค้าขายอีกครั้ง สำหรับผู้ที่เคยค้าขาย เมื่อทราบกติกาแล้วยังสนใจ ก็สามารถมายื่นความจำนงได้ ซึ่งจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์ และคัดเลือกผู้ค้า โดยมีธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ เป็นประธาน ในการดำเนินการ มีกำหนดการประชุมครั้งแรกในวันที่ 18 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ทั้งนี้การจัดระเบียบการค้าพื้นที่ข่วงประตูท่าแพ จะเป็นพื้นที่นำร่อง ก่อนที่จะขยายผลรุกไปยังพื้นที่อื่นๆ เช่นตลาดไนท์บาซาร์ ต่อไป โดยตลาดไนท์บาซาร์นั้นยังติดสัญญาเช่าขายเดิม ซึ่งจะหมดอายุวันที่ 28 มิถุนายน 2559 อยู่ในระหว่างเตรียมการ เข้าไปจัดระเบียบ ซึ่งทางไนท์บาซาร์นั้นจะมีข้อกำหนดแตกต่างเล็กน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่สาธารณะร่วมกับพื้นที่เอกชน และหลังจากนั้นก็จะเข้าไปกำหนดในแบบเดียวกันในพื้นที่ ถนนคนเดินวัวลาย หรือถนนคนเดินวันเสาร์ ต่อไป ด้านถนนคนเดินหลัง ร.ร.ปรินส์ฯ นั้น คณะกรรมการผ่อนผันฯได้พิจารณาไม่อนุญาตให้ขายต่อไปแล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น