ปัญหาภัยแล้ง

b.6

ยังคงร้อนต่อเนื่อง…แถมตอนนี้มีภัยแล้งเข้ามาผสมผสาน ทำให้เชียงใหม่กลายเป็นเมืองทะเลทรายกันเลยทีเดียว เพราะสภาพอากาศที่เป็นหุบเขาเก็บความร้อน ก่อนหน้านี้มีปัญหาหมอกควัน ทำให้เชียงหม่ฤดูร้อนนี้เป็นเชียงใหม่ที่น่าห่วงเป็นอย่างมาก

ข่าวคราวปัญหาปริมาณน้ำที่น้อย ทำให้แหล่งน้ำหลายแห่ง แห้งเหือดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สร้างความหนักอก หนักใจให้กับเราชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะข่าวการจับสัตว์น้ำบริเวณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และที่วัดอุโมงค์

สะท้อนให้เห็นถึงความแห้งแล้ง และความไม่สมดุลทางธรรมชาติแล้ว วันนี้เชียงใหม่มีน้ำน้อยมาก อาจไม่เพียงพอต่อการบริโภคในวันข้างหน้า จนถึงมีข่าวคราวการออกประกาศหากไม่มีฝนตกเหนือเขื่อน เราจะมีน้ำใช้ถึงวันที่ 1 ก.ค. นี้เท่านั้น

วอนขอภาคเกษตรกรงดการปลูกพืช เพราะต้องใช้น้ำเพื่อการบริโภคก่อน ซึ่งเรื่องนี้ น่าหนักใจที่สุดนับตั้งแต่จำความกันได้เลยทีเดียว

จากการบินสำรวจน้ำในเขื่อนแม่กวงและเขื่อนแม่งัด ซึ่งเป็นเขื่อนกักเก็บน้ำที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ที่คอยกักเก็บและส่งน้ำให้ในพื้นที่ ซึ่งในขณะนี้ค่อนข้างจะแห้งขอดอย่างเห็นได้ชัด  โดยมีปริมาณน้ำเหลือไม่ถึงร้อยละสิบ นอกจากนี้แล้ว แม่น้ำปิง ที่เป็นแม่น้ำสายหลักของเมืองเชียงใหม่ ก็ได้รับผลกระทบ รวมทั้งน้ำดิบเพื่อการผลิตบริโภค

นอกจากนี้เราจะเตรียมรับปัญหาภัยแล้ว การพืชผลเกษตรที่ราคาสูงลิ่วแน่นอน ลำไยปีนี้ ผลิตได้น้อยกว่าปกติร้อยละ 70 พืชอีกหลายชนิดปลูกไม่ได้ เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนน้ำ

ที่สำคัญข้าวปีนี้จะมีราคาแพงขึ้น เพราะปัญหาภัยแล้งลามไปทั่วประเทศ เกษตรกรไม่สามารถเพาะปลูกได้ ทำให้ปีนี้น่าจะเป็นห่วงเรื่องปัญหาพืชผักการเกษตรเป็นอย่างมาก

เราคงถึงวิกฤตกันแล้ว สำหรับปัญหาดินฟ้า อากาศ ผลจากการอ้างว่า ไม่ทำเกษตรแล้วจะเอาที่ไหนกิน การปลูกข้าวโพดสร้างความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ปัญหาน้ำแล้ง น้ำตกที่ไม่เคยเหือดแห้ง เราจะเห็นกันในวันนี้เพราะปัญหาป่าไม้

วันนี้ธรรมชาติกำลังจะเอาคืน…สิ่งที่มนุษย์ทำครับ

ชัย ราชเชียงแสน

ร่วมแสดงความคิดเห็น