ธารน้ำใจไหลช่วยเหลือ เหยื่อไฟไหม้หอพัก ร.ร.

เมื่อวันที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ นายอำเภอเวียงป่าเป้า เป็นประธานการประชุมคณะทำการงานเพื่อให้การช่วยเหลือกรณีโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา ภายในมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) ที่เกิดเหตุไฟไหม้บ้านพักเด็กหญิง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เด็กหญิงชั้นอนุบาล-ป.6 เสียชีวิต 17 คน และบาดเจ็บ 5 คน โดยมีคณะครูและผู้ปกครองนักเรียนของโรงเรียนที่ประสบเหตุร่วมหารือ
นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ นายอำเภอเวียงป่าเป้า เปิดเผยว่า จากการรวบรวมเงินบริจาคที่เปิดบัญชีธนาคารทุกธนาคารแล้ว มียอดเงินรวม 14,772,297.38 บาท คณะทำงานได้พิจารณาตามความเหมาะสมแล้ว เห็นควรช่วยเหลือผู้เสียชีวิตทั้ง 17 ราย ๆ ละ 750,000 บาท บาดเจ็บสาหัส 2 ราย ซึ่งยังไม่รู้สึกตัวคือ ด.ญ. รดา อุยยือ จำนวน 600,000 บาท และ ด.ญ.นรินทิพย์ อาจู ซึ่งถูกไฟลวกตามลำตัว ยังคงรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล จำนวน 400,000 บาท ส่วนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 3 รายๆ ละ 100,000 บาท นอกจากนี้ คณะกรรมการยังมีการพิจารณาเงินช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในครั้งอีก 13 รายๆ ละ 50,000 บาท และเด็กที่เข้าไปช่วยเหลือในช่วงเกิดเหตุอีก 3 รายๆ ละ 20,000 บาท ซึ่งได้มอบเงินให้ในวันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ส่วนเงินที่ธนาคารออมสินเปิดรับบริจาค อีกประมาณ 1.3 ล้านบาท ทางธนาคารได้เฉลี่ยช่วยเหลือผู้เสียชีวิตรายละ 30,000 บาท ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 รายๆ 170,000 บาท และผู้ได้รับบาดเจ็บอีกตามความเหมาะสม ซึ่งการช่วยเหลือเป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค ที่ต้องการให้ช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย อย่างไรก็ตาม หลายหน่วยงานก็ได้มอบสิ่งของและเงินช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้ เป็นเงินประกันชีวิตรายละ 200,000 บาท และเงินช่วยเหลือจากองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน เฉลี่ยรายละประมาณ 400,000 บาท และเมื่อกับที่จะได้รับในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ ผู้เสียชีวิตจะได้รับการช่วยเหลือรายละกว่า 1 ล้านบาท
ทางด้าน พ.ต.อ.ประหยัด สิงสิน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเวียงป่าเป้า กล่าวว่า ทางคดีตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการตรวจสอบและหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ โดยมีการเรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำไว้หมดแล้ว เหลือเพียงผลทางคดีจากกองพิสูจน์หลักฐานที่ออกมาอย่างเป็นทางการก่อน เพื่อที่จะสรุปสำนวนในการส่งฟ้องคดีตามกฎหมาย ในระยะนี้จึงยังกันพื้นที่เกิดเหตุไว้ก่อนจนกว่าคดีจะสิ้นสุด