ฝนถล่มสายใต้ ผู้ว่าฯห่วง ให้ระวัง 24 ชม. อ.ดอยหล่อ-จอมทอง พร้อมรับเหตุฉุกเฉิน

นายปวิณ ชำนิประศาสน์
นายปวิณ ชำนิประศาสน์

ฝนถล่มเชียงใหม่หลายพื้นที่สายใต้อ่วม นอกจากนี้ยังเกิดนำป่าหลาก ในพื้นที่บ้านลาน ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เข้าท่วมถนนสัญจรของประชาชน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งจัดชุดช่วยเหลือประชาชนเตรียมรับมือเหตุฉุกเฉิน หวั่นปริมาณน้ำที่พุ่งสูงขึ้นพัดกระหน่ำท่วมบ้านเรือน ขณะที่ทางพ่อเมืองเชียงใหม่สั่งจับตาเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงนี้

เมื่อช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.45 น. วันที่ 25 ก.ค.59 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ได้เกิดพายุฝนตกหนักในพื้นที่สายใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งประกอบด้วย บริเวณพื้นที่อำเภอดอยหล่อ และพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็น อำเภอจอมทอง อำเภอสันป่าตอง เป็นต้น โดยพายุฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องประมาณ 1 ชั่วโมงส่งผลให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้บริเวณถนนสาย108 เชียงใหม่-ฮอด พื้นที่ถนนบริเวณหน้าร้านเดอะเอิงบูติดและหน้าร้านน้ำเพชรการค้า ในพื้นที่อำเภอดอยหล่อ เกิดน้ำท่วมขังบริเวณพื้นผิวถนนดังกล่าว สูงประมาณ 30 เซนติเมตรเมตร เป็นทางยาวราด และทำให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรบนสายดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนด้านการจราจร และทำให้ถนนสายดังกล่าวติดขัด เป็นทางยาว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและให้รถบนถนนสายดังกล่าวสามารถเคลื่นไปได้ ซึ่งในเวลาต่อมาประมาณ 18.45นาที พายุฝนได้หยุดตกทำให้บริเวณที่มีน้ำท่วมขังมีปริมาณน้ำลดลงก่อนที่จะเหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ปกติ

จากการที่ช่วงเย็นของวันที่ผ่านมา (24 ก.ค.59) ได้เกิดพายุฝนตกหนักในพื้นที่บ้านลาน ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ส่งผลให้มีการแจ้งเตือนปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดมีระดับน้ำฝนสะสมถึง 106 มิลลิเมตร และมีการเตือนสัญญาณสีเหลืองเพื่อแจ้งให้กับผู้ที่อยู่อาศัยใกล้แหล่งน้ำมาวทราบว่าปริมาณน้ำฝนตกลงมามาก อาจเกิดเหตุฉุกเฉินดินโคลนถล่มและน้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏรได้ โดยล่าสุดทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้มีการดำเนินการเตรียมความพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉินดังกล่าวเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างฉับพลัน

1 ขณะที่ทาง นายปวิณ ชํานิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางเข้าสำรวจพื้นที่ พร้อมทั้งได้กำชับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมทั้งชี้แจงเกี่ยวกับการเฝ้าระวังและมาตรการในการรักษาความปลอดภัยใน เพื่อรับมือเหตุฉุกเฉินในช่วงนี้ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาได้เกิดขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยทางส่วนอุทกวิทยาสำนักทรัพยากรน้ำภาค1 กรมทรัพยากรน้ำ ได้แจ้งว่าในจังหวัดเชียงใหม่มีมิสเตอรเตือนภัย 187 สถานี ซึ่งจะสามารถรายงานสถานการณ์ปริมาณน้ำ พร้อมทั้งเตือนภัยให้ทราบล่วงหน้าทั้งปริมาณน้ำฝน และระดับน้ำในลำห้วยหรือแม่น้ำสายสำคัญในพื้นที่ ซึ่งจากการทดสอบการทำงานนั้นพบว่าสามารถใช้งานได้ 100 % แน่นอน ซึ่งจะแจ้งให้กับทาง สำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเชียงใหม่ทราบได้ก่อนล่วงหน้า เพื่อให้สามารถแจ้งเตือนประชาชนทราบและสามารถเตรียมพร้อมรับมือได้ในที่สุด

โดยทางนายมนัส ขันใส นายอำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ ได้แจ้งให้กับส่วนราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ตลอดทาง อบต.เทศบาล ให้จัดเวรยามทำการเฝ้าระวังในหน้าฝนนี้ 24 ชั่วโมงที่น่ากลัวก็จะเป็นบ้านที่อยู่ลุ่มเขาที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวดินโคลนจะไหลลงมาทับเท่านั้นจึงให้เฝ้าระวังแล้ว 24 ชั่วโมงทุกพื้นที่

1-1ขณะที่ทางด้าน นายอภิสิทธิ ปิยพัฒนมงคล วิศวกรชำนาญการหัวหน้าโครงการไฟฟ้าพลังน้ำแม่มาว ได้แจ้งว่าล่าสุดระดับน้ำในเขื่อนนั้นสามารถบรรจุน้ำได้ทั้งหมด 20 ล้านคิวบิกเมตร แต่ในเวลานี้มีน้ำเพียง 6 ล้านคิวบิกเมตร ยังมีความต้องการอีก 14 ล้านคิวบิกเมตร ในการผลิตไฟฟ้านั้นก็ยังต้องประหยัดใช้ปั่นไฟฟ้าเพียง10 กว่าชั่วโมง แต่ก็ต้องเฝ้าระวังน้ำป่าเท่านั้น ส่วนในเขื่อนไม่ต้องตกใจเพราะมีน้ำเพียง 30 % และน้ำป่านั้นอาจจะมาเร็วไปเร็ว มีเวรยามรักษาความปลอดภัยตรวจระดับน้ำในเขื่อน 24 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อวานเย็นน้ำป่าจาก อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ที่ไหลหลากมาอย่างต่อเนื่องนานประมาณ 40 นาที ส่งผลให้เกิดขึ้นท่วมถนนยาว 70 เมตร แต่สถานการณ์ไม่เลวร้ายมา โดยรถรถและรถจักรยานยนต์ของประชาชนยังสามารถสัญจรไปมาได้ ขณะที่ความเสียหายยังมีรายงานที่เกิดขึ้นในพื้นที่ไม่มากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งกำลังคน

ร่วมแสดงความคิดเห็น